การกรวดน้ำแผ่เมตตา เป็นสิ่งที่เราทำเป็นประจำเมื่อเรารู้สึกโกรธเคือง เจ็บปวด เจ็บใจจากการกระทำผู้อื่น หรือเมื่อเราต้องการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะเราเองเชื่อว่าการกรวดน้ำแผ่เมตตา และให้อภัยสามารถเปลี่ยนชีวิตได้จริง วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์กรวดน้ำแผ่เมตตาเปลี่ยนชีวิตของเราอย่างไรบ้าง ?สมัยเราเป็นวัยรุ่น เราเป็นคนโกรธ เกลียด และผูกใจเจ็บกับคนอื่น หลายครั้งที่คนอื่นมาทำให้โกรธ เราก็จะด่าสวน และสาปแช่งคน ๆ นั้น และก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เช่น คนที่เราผูกใจเจ็บ และสาปแช่งเสียชีวิตลง หรือ บางคนเจ็บไข้ได้ป่วยรุนแรง บางคนเป็นคนรู้จักที่รู้จักกันดีที่ถึงแม้เราจะโกรธเกลียด แต่เราก็ไม่ได้ถึงขั้นอยากให้พวกเขาเหล่านั้นเจ็บป่วย หรือเสียชีวิต เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้นหลายครั้ง เราเองก็รู้สึกผิดติดอยู่ในใจ จนทำให้เราเองก็ไม่มีความสุข เราจึงเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ด้วยการกรวดน้ำแผ่เมตตา แทนการด่าสาปแช่งคนอื่น โดยเราจะคิดว่าคนที่มาทำให้เราโกรธแค้น เจ็บปวด เจ็บใจ คือเจ้ากรรมนายเวรของเราทั้งหมดปกติเราจะท่องบทแผ่เมตตาให้กับตัวเอง และสรรพสัตว์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งก่อนนอนโดยจะเลือกท่องทุกคืนวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันเกิดของเราเอง และจะท่องบทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์เมื่อเรารู้สึกโกรธแค้นมาก ๆ (ส่วนใหญ่จะหาที่สงบ ๆ ท่อง เพราะถ้าจิตใจไม่สงบจริงเราก็ท่องไม่ได้) ส่วนการกรวดน้ำจะกลับมาทำที่บ้าน ในบรรยากาศสงบ ๆ เมื่อเรารู้สึกว่าการสวดแผ่สวดเมตตาไม่ได้ทำให้จิตใจเราสงบลง บทแผ่เมตตาให้กับตนเองบทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ก็คือการสวด สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น…. ซึ่งเราก็คิดว่าทุกคนน่าจะท่องได้ขึ้นใจ เลยไม่ขอเขียนไว้ในที่นี้เมื่อเราโกรธแค้นมาก ๆ ทุก ๆ ครั้ง เราจะข่มจิตใจให้ท่องบทแผ่เมตตาข้างบน โดยเฉพาะบทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ เราจะท่องจนกว่าจิตใจเราจะสงบลง และถ้าท่องแผ่บทแผ่เมตตาแล้วยังไม่ได้ผล เราก็จะทำการกรวดน้ำ ซึ่งเราจะใช้แค่บทท่องกรวดน้ำสั้น ๆ ไม่ซับซ้อนส่วนใหญ่เราอยู่และทำงานต่างประเทศ เราจึงเน้นทำบุญด้วยการโอนเงินบริจาคผ่านมูลนิธิต่าง ๆ มากกว่าการเข้าวัดทำบุญ เช่น บริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ ช่วยสมทบทุนสร้างโรงพยาบาล บริจาคช่วยน้ำท่วม เพราะเราคิดว่าคนส่วนใหญ่ชอบเข้าไปทำบุญที่วัด เราจึงทำบุญที่แตกต่างจากคนอื่น ทั้งนี้เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากอื่น ๆ สำหรับใครที่นิยมเข้าวัดก็แล้วแต่ความชอบและความศรัทธานะคะ แต่เราเชื่อและสะดวกแบบนี้ค่ะถึงแม้เราจะมีสไตล์การทำบุญที่แตกต่างจากคนอื่น แต่หลังจากการโอนเงินบริจาค เราก็จะกรวดน้ำโดยเตรียมอุปกรณ์ในการกรวดน้ำแผ่เมตตาที่บ้านง่าย ๆ ดังนี้น้ำสะอาดที่เราเองใช้ดื่มกิน แต่เน้นแค่ว่าต้องเป็นน้ำที่เปิดใส่ขวด หรือแก้วใหม่ ๆ ที่ยังไม่ผ่านการกินมาก่อนภาชนะสะอาดสำหรับรองน้ำในการกรวดน้ำ บางครั้งใช้แก้ว บางครั้งใช้ถ้วย แล้วแต่โอกาสบทสวดกรวดน้ำแผ่เมตตา โดยเราจะกรวดน้ำใส่ภาชนะสะอาดที่เราเตรียมเอาไว้ พร้อมกับสวดบทกรวดน้ำแบบย่อดังนี้”อิทัง เม ญาตินังโหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ฯ ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจเถิด ” ก่อนปิดท้ายด้วยการกล่าวชื่อบุคคลที่เรากรวดน้ำแผ่เมตตาไปให้ดังนี้เช่น ”ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในวันนี้ ส่งผลให้บิดา (ชื่อ) มารดา (ชื่อ) ตัวข้าพเจ้า (ชื่อ) ญาติพี่น้อง ครูบาร์อาจารย์ ให้มีแต่ความสุข ความเจริญ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมความปรารถนา และขอแผ่เมตตาและบุญกุศลให้แก่ (ชื่อคนที่เราโกรธแค้น พยาบาท) จะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกันอีกต่อไป”หลังจากกรวดน้ำเสร็จ เราก็จะเอาน้ำที่กรวดน้ำไปรดให้ต้นไม้ โดยความเชื่อโบราณ จะรดที่โคนต้นไม้ใหญ่เท่านั้น สำหรับเราถ้าทำได้เราก็ทำตามความเชื่อโบราณ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็รดที่โคนต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านแทน ผิดถูกอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ว่าทำแล้วชีวิตก็ดี มีคนเมตตา ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้แล้วการกรวดน้ำแผ่เมตตา เปลี่ยนชีวิตเราอย่างไรบ้าง?เรารู้สึกว่าตัวเองมีความสุข จิตใจโล่ง โปร่งสบาย มีคนรัก มีคนอุปถัมภ์ โดยเฉพาะเรื่องงาน ทำให้ชีวิตเราพบเจอเพื่อน และคนดี ๆ รอบตัวคนที่เคยทำไม่ดีกับเรา ก็จะไม่เข้ามามาวุ่นวายกับเรา เหมือนธรรมชาติคัดคนดี ๆ มาให้เราแทน ไม่มีคนเสียชีวิต หรือเจ็บป่วยจากความโกรธแค้น พยาบาทของเราอีกการทำบุญทำทาน ไม่จำเป็นต้องรอวันพระ การกรวดน้ำแผ่เมตตาก็ไม่จำเป็นต้องรอไปกรวดแค่ที่วัดเช่นกัน เรื่องแบบนี้เราสามารถทำเองได้ง่าย ๆ เพราะเราเชื่อว่า การกรวดน้ำแผ่เมตตา ทำที่ไหนก็ได้ ถ้าใจเราพร้อมที่จะทำความสำคัญในการกรวดน้ำแผ่เมตตา คือ เราต้องใช้น้ำสะอาด ค่อย ๆ รินน้้าช้า ๆ ใส่ภาชนะสะอาด และเอาน้ำในภาชนะที่รองได้ ไปรดใส่โคนต้นไม้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ง่าย ๆ แค่นี้สำหรับเรา สำหรับเราที่เชื่อเรื่องพลังงานบวก พลังงานลบในจักรวาล หากตัวเราโกรธแค้นใคร พลังงานลบในตัวเราจะส่งผลให้ภูมิต้านทานเราลดลง ทำให้จิตใจขุ่นมัว จะคิดทำเรื่องดี ๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะเรามัวแต่คิดถึงแต่เรื่องขุ่นเคืองเดิม ๆ หลุดพ้นจากตรงนั้นไม่ได้ เมื่อพลังงานลบอยู่ในตัวเรามาก เราก็จะไปดึงพลังงานลบเข้ามาเรื่อย ๆ และจะผลักให้พลังงานบวกอยู่ห่างจากตัวเรา ทำให้เราทำอะไรไม่ขึ้น คิดอะไรไม่ออก หากเราโกรธแค้นใคร แล้วทำการกรวดน้ำแผ่เมตตา จิตของเราก็ไม่ผูกติดกับเรื่องนั้น หรือตัดเรื่องนั้นออกไปแล้ว เป็นเหมือนการตัดพลังงานลบออกไป แล้วพร้อมที่จะชาร์จพลังงานบวกเข้ามาแทน ทำให้ชีวิตมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามา เรื่องพวกนี้ฟังดูเหมือนจะเป็นแค่ความเชื่อ แต่ถ้าทำแล้วช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น ลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ ลองเอาวิธีของเราไปทำดูค่ะ เราเชื่อว่าชีวิตคุณจะมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาแน่นอน แล้วอย่าลืมมาอัปเดตให้ฟังด้วยนะคะว่าผลเป็นอย่างไร แล้วกลับมาพบกันใหม่ค่ะเครดิต ภาพปก โดย Peggy_Marco จาก Pixabayภาพที่ 1-6 โดยผู้เขียน กราฟฟิกจากเว็บ Canva By Nurseonomyบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ - การทำบุญวันออกพรรษา ของชาวอีสานใต้- วันสารทไทย กับประเพณีไหว้ผีตายาย ”แซนโฎนตา ” ของชาวอีสานใต้7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์