เอาใจสายมูกัน เราไปไหว้พระขอพรในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทย วันที่ 12 เมษายน 2567 นะคะ หรือก็คือเทศกาลสงกรานต์ ต้องบอกก่อนเลยคะว่า เราตั้งใจไปไหว้จริง ๆ 5 วัด คือ 1. ศาลหลักเมือง 2. วัดพระแก้ว 3. วัดระฆัง 4. วัดอรุณราชวราราม 5. วัดกัลยาณมิตร เพราะสถานที่แต่ละแห่งห่างกันไม่มากนัก แต่ภาระกิจตามความตั้งใจไม่สำเร็จเพราะอากาศเดือนเมษายนนี้ร้อนมาก ๆ มิหนำซ้ำคนที่ตั้งใจมาไหว้ขอพรยังมีจำนวนมาก และยิ่งในวัดพระแก้ว ยิ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก ๆ เราจึงทำได้เพียงแค่ 3 สถานที่ แต่ก็เป็นสถานที่มีความสำคัญ ที่ไม่ควรพลาด มาเริ่มเดินทางไปกับเรากันเลยคะ เราเดินทางโดยรถโดยสารมาที่ท่าน้ำศิริราช หรือก็คือท่าน้ำวังหลัง (ส่วนใครจะมาโดยรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถหาสถานที่จอดรถรอบ ๆ โรงพยาบาล หรือจะจอดรถที่อาคารจอดรถของวัดระฆังได้นะคะ) สถานที่แรกที่เราไปคือ ศาลหลักเมือง ไปขึ้นเรือข้ามฟากกัน ท่าเรือที่จะข้ามไปฝั่่งพระนครคือ ท่าวังหลัง อยู่ข้างโรงพยาบาลศิริราช ตรงสุดถนน เมื่อจ่ายค่าโดยสารเรือข้ามฟาก คนละ 4.50 บาท แล้ว จะมีเรือข้ามไป 2 ท่าให้เลือกคือ ท่าพระจันทร์ กับท่าช้าง สังเกตุได้จากป้ายบอกท่าบนเรือ เราต้องเลือกไปท่าช้างนะคะ ขี้นจากท่าช้างเสร็จเราจะเจออุโมงค์ลอดถนนหน้าพระลาน ซึ่งอุโมงค์นี้จะมีหลายจุดเข้าออก แต่ในวันที่เราไปเปิดเฉพาะตรงบริเวณท่าช้าง ก็เลยได้แค่ลอดอุโมงค์ที่จุดนี้ ออกจากอุโมงค์ก็เดินเลาะกำแพงวัดพระแก้วไปที่ศาลหลักเมือง ภายในอุโมงค์คือแอร์เย็นฉ่ำมาก ๆ 1. ศาลหลักเมือง ไปถึงศาลหลักเมืองจะมีป้ายบอกว่าต้องไปไหว้ตรงไหนบ้าง เราก็ไปซื้อดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าแพร ชุดละ 60 บาท วันนี้เทศกาลสงกรานต์ใครจะเอาน้ำอบเพิ่ม ก็ขวดละ 10 บาท จุดธูป จุดเทียน ผูกผ้าแพร ขอพรที่ด้านนอกองค์หลักเมืองแล้ว เราก็ไปขอพรต่อที่หลักเมืององค์จริงข้างในคะภายในหลักเมืองจะมี 2 เสานะคะ เสาแรกจะสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 และเสาที่ 2 จะสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 เราก็ขอพร สิ่งที่สายมูแนะนำในการขอพรก็คือ ขอมีหลักฐานมั่นคง ชีวิตประสบความรุ่งเรือง ในเร็ววันจากนั้นจุดที่ไม่ควรพลาดคือ ต้องไปขอพรต่อเทพารักษ์ทั้ง 5 อันมีมีพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์ เจ้าพ่อหอกลอง โดยไฮไลท์ที่เราไปไหว้ขอพร ก็คือพระกาฬไชยศรี ท่านชอบดอกกุหลาบสีแดง ทางศาลมีจำหน่ายอยู่ตรงหน้าศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 สิ่งที่สายมูแนะนำขอพรคือ ขอพระให้ชนะภัยพาล หมู่มารทั้งปวง และความเจ็บไข้ได้ป่วยให้หายพระกาฬไชยศรีจะอยู่องค์กลาง ประทับบนหลังนกแสก เสร็จจากศาลหลักเมือง เราก็ไปต่อที่ 2. วัดพระแก้ว เราก็เดินย้อนกลับทางเดิมคะ ข้ามถนนมา ลัดเลาะข้างกำแพง พอเข้ากำแพงพระบรมมหาราชวัง ก็เดินตามทางไปเรื่อย ๆ ในวันนี้ทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ คะ ก่อนเข้าไปสักการะพระแก้ว หากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู ส่วนคนไทยเข้าฟรีเพียงแค่แสดงบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ทราบบรรยากาศนักท่องเที่ยวจำนวนมากในวัดพระแก้ว ถึงแม้จำนวนคนจะเยอะมาก แต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการเข้าสักการะพระแก้วมรกต แต่ด้วยอากาศที่ร้อนมาก ๆ เราเลยอยู่ในวัดพระแก้วไม่นาน รีบเดินทางไปวัดต่อไปคะ 3. วัดต่อไปคือ วัดระฆัง เราเดินออกจากวัดพระแก้วก็ลอดอุโมงค์มาขึ้นที่ท่าช้าง ลงเรือข้ามฟาก เลือกท่าวัดระฆัง เรือจอดที่หน้าวัดระฆังเลย วัดนี้มีความสำคัญคือเป็นสถานที่สมเด็จพุฒาจารย์โต เป็นเจ้าอาวาสที่วัดนี้ ขึ้นจากเรือมองไปทางขวามือจะเห็นหลวงพ่อโตองค์ใหญ่เลยคะ แต่ว่าวันนี้ร้อนมาก เราเลยไม่ได้ไปกราบท่านตรงกลางลาน เราไปกราบท่านข้างในกันสวดคาถาชินบัญชร ไหว้ขอพรหลวงพ่อโต เราไหว้พระขอพรได้ 3 แห่ง ก็หมดแรง เพราะอากาศร้อนจัด เวลาที่ใช้ทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ท่าน้ำวังหลัง เวลา 9.30 น. จบภารกิจไหว้พระ 3 วัดเวลา 13.00 น. วันนี้คงต้องพอแค่นี้ก่อน วันหลังค่อยหาโอกาสไปซ่อมคะ #ไหว้พระ #ขอพร #ศาลหลักเมือง #วัดพระแก้ว #วัดระฆัง #ไหว้พระขอพร #ไหว้พระ 3 วัด #หลวงพ่อโต #ทริปไหว้พระ # ไหว้พระขอพรภาพถ่ายทั้งหมด โดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !