ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาตัวช่วยทางใจ หรือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่เว้นแม้แต่ตัวผู้เขียนเอง ถึงแม้ว่าพื้นเพเดิมจะเป็นคนอีสานโดยกำเนิดแต่แอบเทใจไปทางปักษ์ใต้จนหมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่วัตถุมงคลหรือ”เครื่องราง”ของเสริมดวงต่าง ๆ ก็ยังยึดเอาของทางปักษ์ใต้เป็นส่วนใหญ่ และหากจะกล่าวถึง ”ไอ้ไข่หรือตาไข่เด็กวัดเจดีย์” แล้วเชื่อว่าหลายท่านที่ชื่นชอบในทางเสริมดวงและโชคลาภต้องรู้จักเป็นอย่างดี วันนี้ผู้เขียนจึงขอไม่เล่าถึงประวัติของไอ้ไข่ในบทความนี้ แต่จะขอเล่าถึงความเป็นมาว่าผู้เขียนได้รูปหล่อเนื้อโลหะของ ไอ้ไข่หรือตาไข่วัดเจดีย์องค์นี้มาได้อย่างไรผู้เขียนได้รู้จักรุ่นพี่ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ณ สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง และได้แลกเบอร์โทรเพื่อติดต่อกันเมื่อถึงครบกำหนดเวลา ที่ต้องแยกย้ายกันไปทำงาน หลังจากนั้นพี่เขาได้ถามไถ่ผู้เขียนถึงกิจการงานที่ทำว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผู้เขียนพูดคุยเชิงปรับทุกข์กับพี่เค้าเนื่องจากธุรกิจถึงคราวขาลง จะคิดอ่านมองไปทางไหนก็ดูจะติดขัดไปซะทุกเรื่อง ในช่วงโลว์ซีซั่นถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าร้านจนต้องทยอยปิดไปทีละร้าน ทีละร้าน จากห้าร้านในเกาะพีพีเหลือเพียงร้านเดียว อ่อ! ถึงตรงนี้ผู้เขียนขอเล่าย่อ ๆ ว่าผู้เขียนเปิดร้านขายของงานแฮนด์เมด ประเภทเครื่องหนัง สร้อยถัก และเครื่องประดับต่าง ๆ ที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หากไม่เล่าคุณผู้อ่านจะงงเอาได้เมื่อพี่เค้าได้ฟังคำปรับทุกข์ของผู้เขียนแล้ว ไม่ได้พูดอะไรมาก บอกแค่ว่าใจเย็น ๆ นะจะส่งตัวช่วยไปให้ ต่อมาไม่นานผู้เขียนก็ได้รับพัสดุจากไปรษณีย์เมื่อเปิดออกดูก็เห็นรูปหล่อโลหะองค์เล็ก ๆ ขนาดความสูงประมาณ 5 เซ็นต์ติเมตร ใต้ฐานเขียนว่า ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ผู้เขียนเองไม่รู้ว่าของแท้หรือของปลอมเป็นอย่างไร แต่สิ่งแรกที่ทำคือพนมมือแล้วยกขึ้นใส่หัว ในใจพลางนึกว่า สาธุ สาธุ ขอบารมีไอ้ไข่มาช่วยลูกหลานด้วยเถิดนับจากวันนั้นเป็นต้นมาหากจะนึกขอพรสิ่งใด หรือแม้แต่นั่งภาวนาก็จะนึกถึงบารมีของไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์อยู่เป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรักเพราะครั้งหนึ่งผู้เขียนมีปัญหากับแฟนถึงขั้นต้องแยกกันอยู่ถึงสามเดือน ผู้เขียนไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรจึงนั่งภาวนาทุกคืน แล้วส่งความระลึกถึงไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ เพื่อขอพรให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม และหลังจากนั้นไม่นานนักผู้เขียนกับแฟนก็กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมยังไม่จบเพียงเท่านี้นะคะ ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะไม่เคยถูกหวยรวยเบอร์จากไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์เหมือนคนอื่น ๆ แต่ในด้านเสน่ห์กับคนรอบข้างนั้นไม่น้อยหน้าใคร หลังจากที่โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ซ้ำร้ายพี่เชื้อไวรัสโคโรน่า หรือที่เรียกกันติดปากว่า โควิด-19 ยังมาหยุดทุกสิ่งทุกอย่างของเกาะพีพี ให้นิ่งสนิทราวกับคนนอนหลับ มีเพียงเสียงคลื่นทะเลเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม ผู้เขียนจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่บ้านที่ซื้อไว้ที่หล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนเดินทางผู้เขียนยกรูปหล่อของไอ้ไข่ขึ้นเหนือหัวพร้อมกล่าวว่า “สาธุ สาธุขอบารมีไอ้ไข่วัดเจดีย์ช่วยอำนวยอวยชัยให้ลูกได้เจอกับมิตรสหายที่ดี ขอให้พบแต่คนดี ๆ และขอให้มีผู้คนเมตตาด้วยเถิด” เมื่อเดินทางมาถึงที่หล่มสักเพชรบูรณ์ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นรวมไปถึงผู้คนในหมู่บ้านก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และได้รับความรักความเมตตาจากคนรอบข้างมาก จนไม่รู้จะตอบแทนพวกเขายังไงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสังคมใหม่ ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยอาจจะฟังดูน่ากลัว แต่ผู้เขียนได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านและมิตรภาพใหม่ ๆ บางคนให้ของชิ้นใหญ่เช่น รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมาใช้ฟรี ๆ เพียงเพราะผู้เขียนบอกว่าไม่มีรถขี่ไปขายของ จนอดนึกถึงไอ้ไข่หรือตาไข่ที่เรานับถือไม่ได้แม้จะไม่ได้โชคลาภทางตัวเลขเหมือนคนอื่นๆ แต่ได้รับความรักความเมตตาจากคนรอบข้างนั้นถือว่าโชคดีกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งแล้วหละค่ะเพิ่มเติมอีกนิดก่อนจบบทความนี้ การบูชาหรือการไหว้ไอ้ไข่วัดเจดีย์ของผู้เขียนนั้นไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมาก เพียงแค่คิดดี ปฏิบัติดี และเมื่อมีโอกาสกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลผู้เขียนก็มักจะนึกถึงท่านเสมออย่างไรก็ตามแม้เรื่องที่ผู้เขียนเล่ามาทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ขอให้คุณผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะคะ เพราะบางครั้งอาจจะแค่เพียงเหตุบังเอิญก็เป็นได้ ขอให้ทุกท่านโชคดีเรื่องและภาพโดย::บุหงาอันดามันเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบน App TrueID โหลดเลย ฟรี !