วันฮาโลวีนเป็นวัฒนธรรมความหลอนของชาวตะวันตก เพื่อต้อนรับความหลอนในวันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ เราเลยจะมาเล่าความเชื่อสุดหลอนของชาวเขมรโบราณให้คุณฟัง ถ้าใครที่ใจไม่แข็งพอก็อย่าอ่าน เพราะเรากลัวคุณจะจิตตกจนนอนไม่หลับ บทความนี้เราเขียนจากความเชื่อเขมรโบราณในบางท้องถิ่นเท่านั้น อาจจะไม่สามารถอ้างอิงได้ว่าคนไทยเชื้อสายเขมรจะมีความเชื่อแบบเดียวกัน เรามาดูกันเลยค่ะว่า 7 ความเชื่อสุดหลอนของชาวเขมรโบราณมีอะไรบ้าง ความหลอนเกี่ยวกับหมาดำความเชื่อเกี่ยวกับหมาดำ คือคนที่มีวิชาอาคมจะมีหมาดำเป็นสัตว์เลี้ยง หมาดำในที่นี้ไม่ได้หมายถึง สุนัขสีดำ ที่เราเลี้ยงไว้ในบ้านนะคะ หมาดำในที่นี้คือสิ่งเร้นลับของคนมีวิชาอาคม โดยคนที่มีวิชาอาคมจะปล่อยหมาดำออกมาเฉพาะช่วงกลางคืน เพื่อลองวิชาอาคมของตัวเอง หรือ เพื่อต้องการไปเอาชีวิตคนอื่น ว่ากันว่าหมาดำจะมีกระดิ่งติดมาด้วย เมื่อเจ้าของปล่อยไปที่บ้านใคร แล้วเจ้าของบ้านนั้นลงมาดู หมาดำจะกระโจนเข้าใส่ อาจจะกัด หรือเข้าไปกัดกินอวัยวะภายใน ทำให้คนที่โดนของเจ็บป่วยมีสติฟั่นเฟือน หรือเสียชีวิต แล้วแต่เจ้าของหมาดำจะอยากให้เป็นแบบไหน ถ้าหมาดำไปเจอหมออาคมที่เก่งกล้ากว่า หมาดำก็อาจจะถูกฆ่าหรือทำร้าย คนที่เป็นที่เจ้าของหมาดำก็อาจจะเจ็บป่วย หรือเสียชีวิตได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นกับอาคมของคู่ต่อสู้ค่ะ ความหลอนเกี่ยวกับกูร์บา กูร์บา (คำว่ากูร์บาในภาษาเขมร แปลว่าโค หรือ วัวถึกในภาษาไทย ) เป็นสิ่งเร้นลับลักษณะคล้ายวัวควาย มีกระดิ่งเหมือนกับหมาดำ แต่ความดุร้ายจะไม่เท่า คนที่มีวิชาอาคมจะปล่อยกูร์บามาในบริเวณบ้านของคนที่เค้าไม่ชอบ หรือมุ่งร้าย ให้กูร์บามากินพืชผักสวนครัว หรืออยู่ในป่าหม่อน ถ้าเจ้าของบ้านได้ยินเสียงกระดิ่งของกูร์บา ก็จะลงมาไล่ และอาคม หรือของจากกูร์บาจะมาเข้าเจ้าของบ้าน ปกติของจากกูร์บาจะทำให้เจ็บป่วย หรือเสียชีวิต หากได้รับการรักษาไม่ถูกวิธี เท่าที่เคยได้ยินจากคุณพ่อเรา คือบางคนของเข้า เมื่อเจอหมออาคมที่ฝีมือแก่กล้า แค่หมอเอามือไปชี้ที่คนป่วย คนป่วยนั้นก็ร้องโหยหวน และบางคนถึงขั้นบอกชื่อว่าเป็นของมาจากใคร ซึ่งคนที่อาคมแก่กล้าก็จะรักษาคนป่วยด้วยการแก้ของ หลาย ๆ คนก็หายป่วยจริง บางคนก็ตายเพราะคนแก้อาจจะอาคมไม่แรงกล้าเท่าเจ้าของกูร์บา และหมออาคมบางคนก็โดนของ ทำให้เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเสียเอง เราได้ฟังคุณพ่อก็หลอนตามทุกครั้ง ความหลอนเกี่ยวกับ อาระ และจร๊าบ อาระ และ จร๊าบ เป็นสิ่งเร้นลับตามธรรมชาติที่อาศัยอยู่ตามป่าเขา ไม่ใช่ผี แต่ก็คล้าย โดยอาระและจร๊าบจะชอบอาศัยอยู่ตามจอมปลวกที่มีต้นไม้ใหญ่ จอมปลวกของจร๊าบจะมีลักษณะโล่ง และเรียบ กว่าของอาระ ถึงแม้จะเป็นสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นแต่ก็ห้ามไปลบหลู่ เพราะอาระและจร๊าบสามารถตบหรือทำให้คนเป็นพิการ หรือตายได้เช่นกัน สมัยก่อนว่ากันว่า ใครไปทำการลบหลู่ก็จะโดนตบ บางคนก็เป็นอัมพาต พูดไม่ได้ หรือเสียชีวิต การไปลบหลู่อาระหรือ จร๊าบ เช่น การไปว่ากล่าวลบหลู่ การไปทำลายจอมปลวกใหญ่ การไปปัสสาวะ หรือ อุจจาระใส่ที่ของอาระ หรือ จร๊าบ การไปปิดทางน้ำไหล เหล่านี้ล้วนเป็นการลบหลู่ทั้งสิ้น ดังนั้นชาวเขมรโบราณจะทำการขออนุญาติในการไปรื้อถางจอมปลวกใหญ่ ซึ่งก็จะมีการทำพิธีก่อนทุกครั้ง และหากใครไปลบหลู่ก็ต้องทำพิธีขอขมา บางคนก็ดีขึ้นจากการทำพิธีขอขมาจริง ชาวเขมรโบราณเชื่อว่า หากเดินเข้าป่า แล้วเจอสิ่งเร้นลับมาขวางทางให้สังเกตุที่เท้า ถ้าเท้าติดพื้นแสดงว่าเป็นอาระ หรือจร๊าบ แต่ถ้าเท้าไม่ติดพื้นคือผี ปกติผีแค่มาหลอกเล่น ไม่มีพิษมีภัยแต่อย่างใด แต่ถ้าเจออาระหรือจร๊าบ คุณต้องมีกิริยาสำรวม และไม่แสดงการลบหลู่ ถ้าไปลบหลู่ก็อาจจะเจอดีอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จากการบอกเล่าของคุณพ่อเราเคยมีคนไปกล่าวลบหลู่และโดนอาระตบจนปากเบี้ยว ต้องไปทำพิธีขอขมาหลังจากนั้นอาการก็กลับมาเป็นปกติ ส่วนความจริงอาจจะเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ หรือแตกก็ยังไม่เคยได้รับการพิสูจน์แต่อย่างใด ใครอยากลองดี ก็มาพิสูจน์ได้นะคะ ส่วนเราเองขอไม่ลบหลู่ดีกว่าค่ะ ความหลอนเกี่ยวกับ กระสือ และ ปอบกระสือ และปอบ เป็นอีกหนึ่งความเชื่อสุดหลอนของชาวเขมรโบราณ กระสือและปอบจะชอบกินของดิบ หรือ รก ทำให้คนเขมรโบราณต้องเอากิ่งไม้มีหนามมาคลุมบริเวณที่ฝังรก เพราะหากกระสือ หรือปอบมากินรก อาจจะทำให้เด็ก หรือแม่ที่คลอดลูกตายได้ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับกระสือว่า มีสามีภรรยาคู่หนึ่งนอนอยู่ในมุ้งด้วยกัน ตกกลางคืนภรรยาตื่นขึ้นมา พบว่าสามีนอนอยู่โดยไม่มีหัว ทางภรรยาตกใจเอาผ้าคลุมสามีไว้เพราะคิดว่าสามีตายแล้ว เมื่อสามีกลับมาก็ไม่สามารถเข้าร่างตัวเองได้ และก็ต้องตายจริง ๆ ส่วนเรื่องที่จะเล่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือเป็นแค่ความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมาก็ยากจะพิสูจน์ ตอนเราเป็นเด็ก คุณพ่อญาติของเราเป็นคนเก่งอาคม ลูกชายของท่านสองคนวางแผนจะออกไปล่าปอบและกระสือ ไม่แน่ใจว่าต้องการไปลองของหรือเปล่า คืนนั้นชายฉกรรจ์หลายคนพร้อมกับญาติเราออกไปล่าปอบ แต่กลับโดนปอบไล่ ทุกคนวิ่งกระจัดกระจาย หนึ่งในญาติของเราล้ม ทำให้โดนปอบกิน ญาติของเราคนนั้นก็ล้มป่วยและตายหลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ ช่วงที่ป่วยตามร่างกายเป็นจุดจ้ำตามตัวเต็มไปหมด ทั้ง ๆ ที่ก่อนไปไล่ปอบก็แข็งแรงทุกอย่าง คนแถวนี้ก็เชื่อว่าโดนปอบกิน ส่วนความจริงเป็นอย่างไรเราก็ไม่อาจทราบได้ เพราะการตายก็ไม่ได้มีการผ่าชันสูตรแต่อย่างใด ตอนนั้นเราเองก็ยังเด็ก ผู้ใหญ่ก็ไม่อนุญาติให้เด็กเห็นศพคนตาย ส่วนเรื่องที่ว่าเขาชวนกันไปไล่ปอบอันนี้เราได้ยินมาจริง เพราะบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน ความหลอนเบา ๆ กับอาคมเสกสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ผู้มีวิชาอาคมด้านนี้ จะเสกสัตว์เลี้ยงเพื่อโชว์อาคมของตัวเอง ไม่ได้เน้นการทำร้าย หรืออะไร จากคำบอกเล่าบางคนสามารถใช้ผ้าขาวม้า หรือเศษผ้าเสกให้เป็นกระต่าย ไก่ หรือ นกได้เลย จะมีแค่บางคนที่เสกงูให้ไปกัดคนอื่น และจะมีหมออาคมบางคนที่สามารถมัดปากงู หรือ รักษาพิษของงูเหล่านี้ได้ ส่วนเราเองเกิดไม่ทันยุคนั้น เลยไม่ได้เห็นอะไรแบบนั้น เคยเห็นเพียงการแสดงกลตามสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้นความหลอนกับอาคมเสกหนังควายเข้าท้อง ใคร ๆ ก็บอกให้ระวัง "เขมรจะเสกหนังควายเข้าท้อง" จากประสบการณ์ของเราเองก็ยังไม่เคยเห็นใครถูกเสกหนังควายเข้าท้อง มีเพียงการบอกเล่า ว่าคนโดนของ โดนเสกหนังควายเข้าท้อง จะรู้สึกปวดท้อง รักษายังไงก็ไม่หาย จนเมื่อมีการรักษาถูกจุดโดยคนที่มีวิชาอาคม ก็ทำให้อาการดีขึ้น หรืออาการปวดท้องหายไป บางคนโดนเสกหนังควายเข้าท้อง แต่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ก็ทำให้เสียชีวิตได้ แต่ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าอาคมเหล่านี้มีจริงหรือไม่ ปล่อยไว้ให้เป็นความหลอนรุ่นต่อรุ่นอาคมไซดักทรัพย์ ดักเงิน ดักทอง อันนี้ก็เป็นความเชื่อว่าคนที่มีอาคมสามารถทำพิธีไซดักทรัพย์ ดักเอาเงิน เอาทอง ทำให้ร่ำรวยได้ เราเองก็มีญาติผู้ใหญ่ที่มีอาคมด้านนี้ ซึ่งก็ยอมรับว่าบ้านเค้าร่ำรวยกว่าคนอื่น ๆ มาก แต่แท้จริงท่านจะใช้อาคมดักเงิน ดักทองอย่างที่มีผู้กล่าวอ้างจริงหรือเปล่า เราเองก็ไม่อาจทราบได้ ทราบแต่เพียงว่า บ้านเค้ารวยกว่าคนอื่น ๆ มากเท่านั้นเอง จริง ๆ ก็อาจจะใช้หลักการเหมือนคาถาเงินล้าน หรือเครื่องรางของขลังของเหล่าสายมูก็อาจจะเป็นได้ ซึ่งอาจจะใช้หลักการพลังงานบวกในจักรวาลเหมือนวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็ได้ สำหรับคนที่ใช้อาคมเหล่านี้ต้องถือปฏิบัติอย่างดีเหมือนเช่นการเรียนอาคมอื่น ๆ เพราะถ้าปฏิบัติไม่ได้ อาคมก็จะแตก กลายเป็นหมาดำจรจัด หรือ กลายเป็นปอบได้เช่นกันนี่คือ 7 ความเชื่อสุดหลอนของชาวเขมรโบราณที่เราเอามาแชร์ให้หลอนรับวันฮาโลวีนวันนี้ เราเองเคยถามว่า ถ้ามีวิชาอาคมขนาดนั้น ทำไมไม่ถ่ายทอดให้ลูกหลาน หรือคนรุ่นหลัง คุณพ่อเราบอกว่า การจะเรียนวิชาอาคมเหล่านั้น มีข้อปฏิบัติ และข้อห้ามมากมาย เช่น ห้ามเดินเหยียบเม็ดข้าว ห้ามลอดผ้าถุงของผู้หญิง หากคนที่เรียนวิชาอาคมเหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อาคมเหล่านั้นจะมาเข้าตัว ทำให้คนที่เรียนได้ผลเสียมากกว่าผลดี คนโบราณรุ่นก่อนจึงไม่นิยมสอนให้ลูกหลานรุ่นหลัง เรื่องหลอน ๆ ที่เราเล่าให้ฟังเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อของคนบางกลุ่ม ส่วนแท้จริงเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครทราบได้ เราก็เอามาเล่าให้ฟังเท่าที่เรารู้และเคยได้ยินมา วันนี้ขอลาไปก่อน แล้วจะกลับมาเล่าเรื่องหลอน ๆ ให้ฟังใหม่ ใครชอบเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับ หลอน ๆ ติดตามได้ที่ https://creators.trueid.net/@Nurseonomyบทความอื่นที่น่าสนใจกรวดน้ำแผ่เมตตาเปลี่ยนชีวิต ทำแล้วชีวิตดีขึ้นการทำบุญวันออกพรรษา ของชาวอีสานใต้วันสารทไทย กับประเพณีไหว้ผีตายาย ”แซนโฎนตา ” ของชาวอีสานใต้เครดิต ภาพปก โดย Elina Krima จาก Pexelsภาพที่ 1 /ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 /ภาพที่ 4By Nurseonomy อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !