พระสังกัจจายน์ บูชาอย่างไรให้อุดมลาภ สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้จะพาทุกท่านไปพบกับประวัติสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยที่ผู้นับถือศาสนาพุทธทุกคนรู้จักกันดีและได้นับถือสักการบูชาสืบทอดกันมานานอีกองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระอรหันต์สาวกองค์สำคัญในสมัยพุทธกาล องค์สำคัญที่ว่านี้คือ พระสังกัจจายน์หรือพระมหากัจจายนะ ถ้าเราไปวัดเกือบทุกวัดในประเทศไทยนอกจากจะมีพระพุทธรูป และพระอรหันต์สาวกฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา แล้วยังมีอีกองค์ที่เห็นบ่อยๆคือพระที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ใบหน้าอิ่มเอิบดูมีเมตตา มือทั้งสองจับที่พุง หรือบางองค์ก็แบมือประทานพรเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความสุขสบาย ความมีโชคลาภ ซึ่งคนจีนที่นับถือศาสนาพุทธจะนับถือท่านมากเนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายจึงต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจเพื่อช่วยส่งเสริมการทำมาค้าขายด้านโภคทรัพย์โชคลาภความอุดมสมบูรณ์ ทำไมท่านจึงได้เป็นที่นับถือบูชาในฐานนะผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์นั้น คงต้องย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยพุทธกาลคือยุคที่พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่ พระสังกัจจายน์เกิดในตะกูลพราหมณ์ เป็นบุตรของพราหมณ์ปุโรหิต กัจจานโคตร หรือกัจจายนโคตร ในแผ่นดินของพระเจ้าจัณฑปัชโชต กรุงอุชเชนี เมื่อกัจจายนะกุมารเจริญวัย เรียนจบไตรเพท บิดาได้ถึงแก่กรรม จึงได้รับตำแหน่งปุโรหิตแทนบิดา ครั้นต่อมาพระเจ้าจัณฑปัชโชต ทรงทราบว่า พระศาสดาตรัสรู้แล้ว เสด็จเที่ยวโปรดสัตว์สั่งสอน ประชุมชนธรรมะที่พระองค์สอนนั้น เป็นธรรมที่แท้จริง ยังประโยชน์แก่ผู้ประพฤติตาม จึงมีพระประสงค์ใคร่เชิญเสด็จพระบรมศาสดาไปประกาศที่กรุงอุชเชนี จึงรับสั่งให้กัจจายนะปุโรหิตไปทูลเสด็จกรุงอุชเชนี กัจจายนะปุโรหิตพร้อมด้วยผู้ติดตาม ๗ คน จึงออกจากกรุงอุชเชนี ครั้นมาถึงจึงพากันเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระองค์ทรงเทศน์สั่งสอน ในที่สุดบรรลุอรหันต์ทั้ง ๘ คน หลังจากนั้นทั้ง ๘ ก็ทูลขออุปสมบท ทรงขออนุญาต ครั้นอุปสมบทแล้ว จึงทูลเชิญเสด็จกรุงอุชเชนี ตามหน้าที่ พระองค์รับสั่งว่า"ท่านไปเองเถิด เมื่อท่านไปแล้ว พระเจ้าปัชโชตจักทรงเลื่อมใสท่าน" พระกัจจายนะจึงออกเดินทางพร้อมพระอรหันต์อีก ๗ องค์ ที่ติดตามมาด้วย กลับคืนสู่กรุงอุชเชนี และประกาศสัจธรรมให้แก่พระเจ้าจัณฑปัชโชต พร้อมชาวพระนครเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และถ้อยคำประการอันเป็นสัจธรรม หลังจากนั้นกลับคืนสู่สำนักของพระพุทธองค์ ทุกครั้งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนพระสาวกด้วยสัจธรรมโดยย่อ พระสาวกยังไม่เข้าใจในพระธรรมนั้นจึงพากันไปถามพระมหากัจจายน์ซึ่งท่านได้ขยายความในพระสัจธรรมย่อให้พิศดาลเป็นที่เข้าใจง่าย พระพุทธองค์จึงตรัสยกย่องเป็นเอตทัคคะหรือผู้เป็นเลิศในการอธิบายธรรมแห่งการย่อคำให้พิสดาร นับจากนั้นมาพระสังกัจจายน์ก็เป็นผู้สรุปย่อคำสอนบอกแก่บรรดาสาวกทั้งหลายด้วยความพอใจอย่างยิ่งในคำย่อนั้น และยังเป็นผู้ทูลขอให้พระพุทธองค์บัญญัติแก้ไขพุทธบัญญัติบางประการ เพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัยและสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต พระสังกัจจายน์ เป็นผู้มีรูปงาม ผิวเหลืองดุจทองและมีลักษณะคล้ายพระพุทธเจ้าเป็นที่รักแก่มนุษย์และเทพเทวดาทั้งหลายเป็นอันมาก ด้วยอานิสงค์แห่งผลบุญที่บำเพ็ญมาเมื่อครั้งสมัยที่พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์เป็นพระเวสสันดร ครั้งที่ถวายกุมารชาลีและกุมารีกัณหาให้เฒ่าชูชกแล้วระหว่างทางยามเวลากลางคืนเฒ่าชูชกได้ขึ้นไปหลับนอนบนต้นไม้ มัดทั้ง2กุมารแลกุมารีไว้ใต้ต้นไม้โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยอย่างน่าเวทนา ในครั้งนั้นพระมหากัจจายนะเกิดเป็นเทวดาได้แปลงร่างเป็นพระเวสสันดร และมีนางฟ้าแปลงร่างเป็นพระนางมัทรี เข้ามาโอบอุ้มดูแลขับกล่อมให้หลับนอนและปกป้องคุ้มครองภัยต่างๆอยู่หลายคืนจนกระทั่งเดินทางถึงในเมืองอย่างปลอดภัยผลบุญที่ได้เคยแปลงร่างเป็นพระเวสสันดรในครั้งนั้นมีผลให้ชาตินี้มีร่างกายงามดุจดั่งพระพุทธองค์ จนมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมาว่า ครั้งหนึ่งมีโสเรยยะบุตรเศรษฐีคะนอง เห็นพระสังกัจจายน์จึงปากพล่อยกล่าวว่า ถ้าเราได้ภรรยามีรูปกายงดงามเยี่ยงท่านนี้ จักพอใจยิ่ง พลันปรากฏว่าโสเรยยะบุตรมหาเศรษฐีหนุ่มคะนองปาก ได้กลายเพศเป็นหญิงในทันที จึงหลบหนีไป ต่อมาได้สามีและบุตรสองคน จึงกลับมาขอขมากับพระสังกัจจายน์ โสเรยยะจึงกลับคืนสู่เพศชายเช่นเดิม นับว่าพระสังกัจจายน์มีฤทธิ์อำนาจยิ่งองค์หนึ่งในพุทธสาวก จากเหตุการณ์ครั้งนั้นพระมหากัจจายนะพิจารณาแล้วว่าเพราะรูปกายอันงดงามของท่าน สร้างความปั่นป่วนแก่อิตถีเพศอย่างมาก จึงได้เนรมิตกายใหม่ให้ร่างกายอ้วน พุงพลุ้ย ไม่ให้น่าดูเหมือนเดิม เพื่อความสงบแห่งจิตและกิเลส แก่ผู้พบเห็น และมีครั้งหนึ่งเมื่อคณะของพระพุทธเจ้าจะเดินทางไปในถิ่นทุรกันดารในทางที่ผ่านก็มีภูตผีปีศาจอสุรกายสัตว์ร้ายน่ากลัว ยากจะมีผู้คนอาศัย พระพุทธองค์จึงตรัสถามพระอานนท์ว่า ครั้งนี้พระสิวลีร่วมทางมาด้วยไหม พระอานนท์ตอบว่าไม่มาพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธองค์ตรัสอีกว่าแล้วพระสังกัจจายน์มาไหม พระอานนท์ตอบว่า มาด้วยพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธองค์จึงตัดสินพระทัยพาคณะหมู่พระสาวกเดินทางต่อไปยังถิ่นกันดารนั้น ด้วยอานุภาพแห่งพระสังกัจจายน์เป็นเหตุให้ระหว่างทางมีเทพพรหมเทวดานางฟ้ามาคอยถวายทานปรนนิบัติดูแลพระพุทธองค์และคณะให้เกิดความสะดวกสบายจนถึงจดหมาย เรื่องราวของพระสังกัจจายน์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจและมีความสำคัญพอสรุปได้ว่าเป็นพระพุทธสาวกที่มีความเฉลียวฉลาดมีความรู้ และเป็นที่โปรดของพระพุทธองค์ยิ่ง มากด้วยบุญบารมี มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หาก ผู้ใดได้บูชาพระสังกัจจายน์ จึงได้รับพรมีความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เกิดปัญญามีความฉลาด เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตให้มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองเคล็ดการบูชาพระสังกัจจายน์ ถวายด้วยดอกไม้หอมดอกมะลิหรือดอกบัว ถวายผลไม้และน้ำในวันพระ จุดธูป 3 ดอกตั้งจิตให้เป็นสมาธิแล้วกล่าวพระคาถาดังนี้ตั้งนะโม 3 จบ กัจจายะนะมหาเถโร เทวตานะระปูชิโต โสระโหปัจจะยาทิมหิ อะหังวันทามิเมสะทา ลาเภนะอุตโมโหหิโสระโหปัจจะยาทิมหิ มหาลาพัง สัพพะลาภา สัตทาโสตถี ภวันตุเมสวดบูชาทุกวัน วันละตามสะดวก ก็จะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า การบูชาบุคคลที่ควรบูชาย่อมเป็นมงคลอย่างยิ่ง การที่เราได้บูชาพระสังกัจจายน์ก็ได้สังฆานุสติกรรมฐาน มีอานิสงส์มากมายอย่างแรก ใจเราสงบเย็น เมื่อใจสบาย กายก็เป็นสุข พอมีสมาธิ จิตก็มีสติ ทำให้การคิดตัดสินใจเรื่องอะไรก็ไม่ผิดพลาด เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง และสามารถช่วยเหลือบุคคลอื่นต่อไปได้เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ควรบูชาท่านด้วยความจริงใจระลึกนึกถึงท่านในหลักธรรมที่ท่านสั่งสอนซึ่งเมื่อนำหลักธรรมคำสอนนั้นมาปฏิบัติย่อมทำให้ชีวิตเรามีแต่ความเจริญ หาความตกต่ำร้อนรุ่มในใจไม่ได้อีก ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้การมีเคล็ดลับหรือตัวช่วยนำมาเสริมดวงเป็นสิ่งที่ดีหากหาวัตถุมงคลรูปลักษณ์ของพระสังกัจจายน์มาติดตัวแล้วขอพรขอบารมีท่านย่อมเป็นสิ่งดี เดินทางไปที่แห่งไหนก็ปลอดภัยมีเทวดารักษา เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ด้วย ถ้าประกอบกิจการค้าขายก็จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรื่อง อุดมสมบูรณ์ดุจดั่งบารมีพระสังกัจจายน์มหาสาวก ผู้เขียน เทพพยากรณ์ภาพถ่ายโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !