"พระธาตุบังพวน" เป็นพระธาตุเจดีย์โบราณในจังหวัดหนองคาย ถูกสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวหน่าว 29 พระองค์ ที่อัญเชิญจากอินเดีย หลังพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และ "พระธาตุพนม" สร้างเสร็จไม่นาน...องค์พระธาตุตั้งอยู่ภายใน "วัดพระธาตุบังพวน" ซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญของดินแดนแถบนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ...ปัจจุบัน วัดอยู่ในเขตอำเภอเมืองหนองคาย ทุกปีในช่วงวันมาฆบูชา จะมีงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุและห่มผ้าองค์พระธาตุ เป็นงานใหญ่ของจังหวัด ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลไปทำบุญค่ะผู้เขียนและครอบครัวเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญที่วัดพระธาตุบังพวนเสมอ ปีนี้เลือกไปในวันแรกของงานนมัสการฯ...ในการเดินทางขาไป พวกเราต้องหลงทางอยู่นาน ด้วยความที่เลือกใช้เส้นทางรองที่ไม่คุ้นเคย...แต่กลับกลายเป็นเรื่องดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะการหลงทางทำให้ไปถึงวัดในเวลาเดียวกันกับขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุ จึงเป็นโอกาสให้พวกเราได้ร่วมขบวนแห่และอยู่ในพิธีห่มผ้าองค์พระธาตุตั้งแต่ต้นจนจบค่ะครั้งนี้ ผู้เขียนจึงมาแชร์ประสบการณ์ความประทับใจ ที่ได้ร่วมพิธีกรรมสำคัญที่หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว ในดินแดนแห่งพระธาตุโบราณอันศักดิ์สิทธิ์นี้ค่ะขั้นตอนพิธีห่มผ้าองค์พระธาตุ1. อัญเชิญพระอุปคุตและเหล่าพญานาคนำขบวนเขาทำพิธีอัญเชิญพระอุปคุตที่ "ห้วยบังพวน" แล้วจัดขบวนแห่ มีรูปหล่อพระอุปคุตนำหน้า ตามด้วยเหล่าผู้แต่งกายเป็นพญานาคจำแลง และขบวนนางรำและวัฒนธรรมท้องถิ่น ร่วมอัญเชิญผ้าห่มองค์พระธาตุเข้าสู่วัด...นับว่าเป็นประเพณีที่เป็นแบบฉบับเฉพาะของชุมชนรอบองค์พระธาตุ และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้เขียนค่ะ 2. ร่วมกันแห่ผ้าเข้าห่มองค์พระธาตุสำหรับผ้าห่มองค์พระธาตุ เป็นผ้าสีเหลืองทอง...ขบวนผ้าเป็นขบวนยาว มีผู้คนจำนวนมากทุกเพศวัยร่วมกันแบกผ้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส...ผู้เขียนและครอบครัวเห็นขบวนแห่แล้ว ก็รีบเข้าไปขอแบกผ้ากับเขาด้วยค่ะ3. แห่ผ้าเดินประทักษิณรอบองค์พระธาตุ 3 รอบทั้งขบวนอัญเชิญพระอุปคุต ขบวนพญานาคจำแลง และขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุ เดินประทักษิณ (เวียนขวา) รอบองค์พระธาตุ 3 รอบ...ขณะแห่ ก็มีเสียงบรรเลงเพลง "ลาวสมเด็จ" โดยวงโปงลางอยู่ตลอดเวลา ฟังแล้วก็น่าเพลิดเพลิน...แต่ถึงแม้จะเพลิดเพลินกับบรรยากาศและเสียงเพลงที่ให้อารมณ์เฉลิมฉลองมากเพียงไร ผู้เขียนก็ไม่ลืมที่จะระลึกนึกน้อมบูชาพระคุณพระรัตนตรัยในการเดินรอบองค์พระธาตุแต่ละรอบค่ะ4. นำธงพระอุปคุตขึ้นพันรอบองค์พระธาตุก่อนเมื่อเดินประทักษิณครบ 3 รอบแล้ว เขาก็อัญเชิญรูปหล่อพระอุปคุตขึ้นประดิษฐานไว้สูงสุดบนชุดฐานขององค์พระธาตุ แล้วนำธงพระอุปคุตขึ้นพันรอบชุดฐานในระดับต่ำลงมา...ผู้เขียนชอบที่เขารวบรวมรูปบูชาของพระอุปคุตในปางต่าง ๆ ตามคติความเชื่อของชาวพุทธในแต่ละท้องที่ และเขียน "คาถาหัวใจพระอุปคุต" ลงบนผืนธง ให้ความรู้สึกเหมือนท่านคอยพิทักษ์รักษาคุ้มครองดูแลทุกทิศทางค่ะ5. ห่มผ้าองค์พระธาตุเป็นปฐมฤกษ์ของปีหลังจากผูกธงพระอุปคุตแล้ว ผ้าสีเหลืองทองผืนยาวที่พวกเราช่วยกันแบก ก็จะถูกส่งขึ้นไปพันรอบชุดฐานขององค์พระธาตุในระดับต่ำลงมาจากธงพระอุปคุต...ผู้คนที่แบกผ้ามาก็ต่างเหยียดกันสุดแขน ยกผ้าขึ้นส่งต่อไปยังองค์พระธาตุด้วยความยินดีปลาบปลื้มใจค่ะ6. กล่าวบูชาคุณและขอขมาพระรัตนตรัยและองค์พระธาตุ พอผ้าถูกห่มองค์พระธาตุแล้ว ท่านเจ้าอาวาสวัดก็นำญาติโยมกล่าวคำบูชาคุณและขอขมาพระรัตนตรัยและองค์พระธาตุ...เป็นช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ค่ะ7. อธิษฐานขอพรต่อหน้าองค์พระธาตุขั้นตอนสุดท้าย ท่านเจ้าอาวาสนำกล่าว "คาถาประกาศิตพระร่วง" และบอกให้แต่ละคนตั้งจิตอธิษฐานขอพร (ต่างคนต่างขอได้ 1 ข้อ)...เป็นการจบพิธีกรรมที่สร้างความปีติแก่ผู้ร่วมพิธี รวมทั้งผู้เขียนและครอบครัวเป็นอย่างยิ่งค่ะวัฒนธรรม - ประเพณี - ความเชื่อ ที่น่าประทับใจ1. การเขียนชื่อและอธิษฐานถวายผ้าห่มองค์พระธาตุในงาน เขาเปิดโอกาสให้คนไปร่วมงานเขียนชื่อลงบนผ้าที่จะนำขึ้นห่มถวายองค์พระธาตุต่อไป ทั้งยังมีป้ายคำกล่าวถวายให้อ่านหรือน้อมนึกตามด้วย...การเขียนชื่อตนและครอบครัวลงบนผ้าถวายองค์พระธาตุโบราณที่มีประวัติยาวนาน เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ผู้เขียนตั้งใจทำ และรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ๆ ค่ะ2. เรื่องราวความเชื่อมโยงกับพญานาคการที่เขาจัดให้มีผู้แต่งกายเหมือนพญานาคจำแลง มาร่วมขบวนแห่อัญเชิญผ้าห่มองค์พระธาตุด้วย นับเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นแห่งนี้ ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับพญานาคค่ะ...บริเวณที่ตั้งวัด แต่โบราณชื่อว่า "ภูพญานาค" สื่อความหมายว่าเป็นเมืองพญานาค ส่วน "สระมุจลินท์" สระน้ำโบราณ ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด ก็มีปรากฏการณ์ที่ทำให้เชื่อว่าเป็นปากทางเข้า - ออกแดนพญานาค...เรื่องราวเหล่านี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ชาวสายมู - สายพญานาค รวมทั้งผู้เขียนด้วยค่ะ3. ผ้าป่าลอยฟ้าถวายบูชาองค์พระธาตุผ้าป่าลอยฟ้าช่อโตห้อยธนบัตรเป็นพวง แต่ละช่อถูกผูกโยงขึ้นไปสู่เรือนยอดขององค์พระธาตุ...ทำให้คิดถึงประเพณีของพุทธศาสนิกชนที่มีมาแต่อดีตและมีปรากฏในพระไตรปิฎก ที่นิยมนำของมีค่าถวายบูชาพระธาตุเจดีย์ซึ่งนับเป็นองค์แทนพระรัตนตรัย...เห็นแล้วก็รู้สึกโมทนาด้วยค่ะ 4. ตีฆ้องป่าวประกาศบุญหลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมห่มผ้าองค์พระธาตุรอบปฐมฤกษ์ ผู้คนมากมายต่างมุ่งตรงไปยังฆ้องและระฆัง ที่มีแขวนอยู่หลายใบรอบองค์พระธาตุ ตามความเชื่อคือ เพื่อป่าวประกาศบุญให้กังวานไกลไปสู่ภพภูมิต่าง ๆ...รอยยิ้มแห่งความยินดีปรีดาในบุญ ที่ผู้คนแม้ไม่รู้จักกัน มีให้แก่กัน เป็นภาพที่สวยงาม และเสียงฆ้องระฆัง ก็เหมือนเสียงบุญที่ดังแทบตลอดเวลาค่ะการไปงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระธาตุบังพวนครั้งนี้ เรียกว่า "บุญนำพา" ให้มีโอกาสได้ร่วมขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุบังพวน และได้สัมผัสพิธีกรรมตั้งแต่ต้นจนจบ...ผู้เขียนได้เห็นถึงความสุขสนุกสนาน ความตั้งใจ และความร่วมมือร่วมใจ ของผู้คนที่ได้เฉลิมฉลอง ตามวัฒนธรรม - ประเพณี - ความเชื่อ ที่สืบทอดกันมาในชุมชนท้องถิ่น...ส่วนผู้เขียนและครอบครัว ซึ่งนับเป็นคนต่างถิ่น ก็มีความสุขกับการทำบุญทำกุศล สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอพร ในวัดโบราณที่ตั้งพระธาตุเจดีย์โบราณที่มีประวัติมายาวนานนี้...นับเป็นประสบการณ์ที่สุดประทับใจ คิดถึงทีไรก็อิ่มเอิบชุ่มชื่นใจค่ะ.มรรษยวรินทร์พิกัด วัดพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง หนองคายภาพประกอบทุกภาพ โดย มรรษยวรินทร์เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !