สวนป่าลุมพินี กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และเทวทหะ จุดเริ่มต้น จุดกำเนิดของศาสนาพุทธ ก้าวย่างแรกที่มีกาย และลมหายใจ เดินได้ครั้งแรกของเจ้าชายสิทธัตถะ หญิงสาวก่อนคลอดทุกคนต้องการที่จะกลับไปคลอดที่บ้านของตน เพื่อได้อยู่กับพ่อแม่ อบอุ่นภายในจิตใจ หนทางแสนไกลสำหรับสิริมหามายาคือกลอุบายเพื่อลอกฆ่า ระหว่างทางด้วยความอิจฉา แต่ด้วยบุญญาธิการจึงคลอดระหว่างทาง ก่อนที่จะถึง จึงเป็นที่มาของสวนป่าลุมพินีสถานที่ประสูติ พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างเสาอโศกไว้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญ ด้วยความรักของแม่ที่มีต่อลูก และด้วยความห่วงบ้านห่วงเมือง เมื่อรู้ว่าลูกของตนที่อยู่ในท้องถ้าหากคลอดในกรุงกบิลพัสดุ์บ้านของสามี จะทำให้เกิดสิ่งไม่ดี จึงยอมที่จะเดินทาง เพื่อกลับไปคลอดที่บ้านเกิดของตน สิริมหามายา เดินทางจากกบิลพัสดุ์พร้อมลูกน้อยในครรภ์แก่ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้า มีโจรใจโหดคอยรอสังหารฆ่า แต่ด้วยบุญญาธิการของเด็กในครรภ์จึงรอดปลอดภัยคลอดระหว่างทาง ครั้งนี้จะพาไปพบกับมายาเทวี สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะกุมาร ครั้งที่สามของการเดินทางจาริกบุญตามรอยพระพุทธเจ้า ร่วมกับคณะยุวพุทธ การเดินทางทั้งหมด 14 วันครบทั้งหมด 4 สังเวชนียสถาน สถานที่แห่งนี้ที่จะเล่าคือสถานที่ประสูติ พระนางสิริมหามายาคลอดระหว่างทางกึ่งกลางของสองเมือง คือกบิลพัสดุ์เมืองของสามี และเทวทหะบ้านเกิดของพ่อแม่ ความพิเศษคือ โดยทรงเหนี่ยวกิ่งของต้นไม้ประสูติเจ้าชายออกมา เจ้าชายไม่เหมือนกับเด็กทุกคน ความพิเศษคือ ฝ่าเท้าทั้งสองข้างมีรูปของพระธรรมจักร สถานที่แห่งนี้ต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างมาก ต้องนั่งรถหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวัน เมื่อเดินทางถึงสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่เราทุกคนต้องทำคือการเดินเท้าเข้าไปด้านใน เพราะรถไม่สามารถเข้าไปถึงได้ ครั้งแรกที่เดินทางมาที่นี่นั้น ถนนทางเข้ายังคงเป็นหิน เดินลัดเข้าไปสองข้างทางเต็มไปด้วยข้าวสาลี ป่าและต้นดอกเฟื่องฟ้า พอไปครั้งล่าสุด ถนนหนทางดีขึ้นเพราะสถานที่แห่งนี้ได้รับการดูแลจากทางประเทศไทย มาบูรณะดูแล หนทางสู่มายาเทวี สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ สิ่งที่เพิ่มจากหลายปีที่ไม่ได้เดินทางมาอินเดีย คือรูปปั้นของพระพุทธเจ้า ปางประสูติ ที่ชี้นิ้วหนึ่งนิ้ว หมายความถึงว่า นี่คือชาติสุดท้ายของเราแล้วกับการเวียนว่ายตายเกิดบนโลกใบนี้ ซึ่งพอเราเดินทางถึงรูปปั้นนี้ หนทางอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรได้ ก็จะถึงทางเข้ามายาเทวี แวะถ่ายภาพสักหน่อย ทางเท้า ไม่สามารถนำรถเข้าไปด้านในได้ เส้นทางเข้าสักการะมายาเทวี ต้องเดินเท้าอย่างเดียว ไม่มีเปลหาบไม่มีเพื่อนแปลกหน้าเดินร่วมทาง พอเราเดินทางมาถึงประเทศเนปาลสิ่งที่เห็นได้ชัดคือวิถีชีวิตของขอทาน จะน้อยลวและจะไม่ค่อยตามตื้อ ไม่ให้ก็ไม่เอา นั่งอยู่ตามจุดที่นั่ง ดูมีระดับขึ้นมาหน่อย นอกจากนั้นคือไม่มีรถรับส่ง ใช้สองเท้าก้าวไปตามเส้นทาง ซึ่งเป็นถนนปูด้วยตัวหนอนโล่งสูง ลมโชยอากาศที่นี่เย็น เขตแดนนี้คือประเทศเนปาล อากาศและเวลาที่นี่ จะช้ากว่าประเทศไทยประมาณหนึ่งชั่วโมง ต้นพระศรีมหาโพธิ ต้นไม้ที่มีความเกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธะเจ้านั้น ไม่ว่าจะเป็นต้นอะไร เราจะเรียกว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ แม้ว่าในการประสูตินั้น เจ้าชายสิทธัตถะทรง พระนางสิริมหามายาทรงเดินผ่านป่าสาละซึ่งตอนนั้นทางคณะได้พาไปดูป่าสาละของอินเดียในสมัยพุทธกาล ซึ่งสาละไทยและสาละอินเดียมีความไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย มีการกล่าวไว้ว่า ต้นไม้ทุกชนิดที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าชายสิทธัตถะนั้น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดไหน ก็จะมีการเรียกโดยรวมกันว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ความเก่าและแก่ ความเชื่อเรื่องของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นนี้มีอายุนานน่าจะร้อยกว่าปีได้ สังเกตจากกิ่งก้านของต้นไม้นั้น เริ่มเป็นกิ่งก้านที่ไร้ใบ ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ในพุทธคยาก็เช่นกัน ต้นไม้ที่ตรัสรู้นั้นสิ้นอายุขัยแล้ว แต่ที่ยังอยู่คือหน่อหรือลำต้นที่เกิดจากต้นจริงนับจำนวนต้นที่ตั้งอยู่นั้นคือหน่อเนื้อของต้นโพธิ์ต้นที่ 4 แม้ต้นที่สี่ตอนนี้น่าจะมีอายุยาวนานลำต้นใหญ่โตมโหฬารมาก พิกัด>>> google maps สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ใต้ร่มไม้ใหญ่ใบโพธิ์ ต้นโพธิ์ใหญ่อายุนานนับร้อยปี ถ้าเราเดินเข้าไปใกล้ๆจะมองเห็นถึงความยาวนานของต้นโพธิ์ ลำต้นถูกประดับประดาไปด้วยธงที่แสดงถึงว่า สถานที่นี้มีความสำคัญกับพระศาสดาของศาสนาพุทธ แต่เวลาที่เรานั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ถ้าหากเราโชคดี ใบโพธิ์จะร่วงหล่นลงมาที่ตัดของเรา ซึ่งไม่ใช่ใครจะได้ง่ายๆ เพราะบางครั้งใบโพธิ์น้อยหล่น อาจจะมีหลายมือมาแย่งเราเก็บ เพื่อนำมาขายให้กับเรา ซึ่งเป็นการหารายได้ อย่างหนึ่งของเด็กน้อยที่ไม่ได้รับการศึกษา เพราะครอบครัวมยากจน เด็กๆจึงหาอาชีพหรือทำทุกวิถีทางที่จะได้เงินมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ด่านรักษาความปลอดภัย ตรวจก่อนเข้าประตู เมื่อเราเดินมาใกล้จะถึงเราจะพบกับประตูตรวจดูแลความปลอดภัยก่อนเข้าสักการะ เพื่อคงามปลอดภัยของรองเท้าและสิ่งของ เราจะต้องฝากสิ่งของไว้ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปสักการะ ซึ่งจะมีกุญแจให้สามารถฝากร่วมกันกับเพื่อนได้ รองเท้าไม่ต้องนำเข้าไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของต้นหญ้า ทุกอย่างทีความเปลี่ยนแปลงไปมากจากการมาครั้งที่แล้ว มีความปลอดภัยมากขึ้น และมีการดูแลบริเวณรอบมายาเทวีอย่างดี ปัจจุบันมีการเปลี่ยนสีให้เหมือนสมัยพุทธกาล เดินผ่านประตูเข้าไป ก็จะพบกับมายาเทวี ด้านในของอาคารนั้นสามารถเข้าได้จำกัดจำนวน เพราะเป็นสถานที่ไม่กว้างนัก และเป็นสถานที่ที่เรานั้นสามารถเดินวนเพื่อเข้าไปดูรอยเท้าของเจ้าชายสิทธัตถะที่เดินตอนประสูติ ทั้งหมดเจ็ดเก้า (นับหลายรอบกว่าจะครบ) เชื่อว่าเป็นสถานที่ประสูติสถานที่จริง บริเวณโดยรอบจะเป็นหิน ที่มีคนจำนวนมากโยนเหรียญตามความเชื่อ ด้านในที่เข้าไปงดถ่ายภาพ ปัจจุบันนี้อาคารมายาเทวี ได้มีการเปลี่ยนสีจากสีขาว เป็นสีคล้ายกันกับสีอิฐ สีแดงตามแต่สมัยพุทธกาล แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นสีขาว จึงทำให้สีต่างจากในภาพ แต่ยังคงลักษณะเหมือนเดิม ประตูทางขึ้นสักการะสถานที่ประสูติด้านในมายาเทวี อดีตสถานที่แห่งนี้คือป่าซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสองเมือง บริเวณโดยรอบสถานที่แห่งนี้จึงยังคงเป็นป่า ที่อุดมสมบูรณ์อากาศหนาว เพราะเข้าเขตของเนปาล ซึ่งบริเวณด้านนอกเราจะยังคงเห็นศิลาแลงอยู่ ด้านนี้จะเป็นทางเข้า ด้วยประตูที่เล็กและคนจำนวนมากจึงต้องต่อแถวกันเข้า ถ้าหากเข้าไปจำนวนมาก ช่องลมด้านบนอาจจะให้อากาศไม่ค่อยเพียงพอ จึงหมุนเวียนกันเข้าสักการะ ต้นโพธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่เข้าสักการะเราทุกคนก็จะรวมตัวกันเพื่อสวดมนต์ไหว้บูชาสถานที่วิหารมายาเทวี และนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาประมาณครึ่งชั่วโมง ในสถานที่แห่งนี้ถ้าเรานั่งหน้าสระน้ำและมองไปทางวิหารมายาเทวี เราจะมองเห็นวิหารมายาเทวีในน้ำอย่างสวยงาม สระน้ำแห่งนี้ แต่ก่อนถือเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นบ่อน้ำที่เชื่อว่า หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้มาล้างตัวที่สระแห่งนี้ การนั่งทำสมาธิใต้ต้นโพธิ์แล้วหันหน้าไปทางมหามายาเทวี จีงทำให้รู้สึกเย็นสบายไปกับลมพัดมาเป็นระยะๆ เวลาในการเข้าสักการะ เนื่องด้วยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังแดดนอกจากบริเวณด้านใน แต่ถ้าเข้ามาสักการะ จะใช้เวลาเดินด้านในมายาเทวีไม่นาน ประมาณไม่เกินสิบนาทีก็ต้องเดินออกมาด้านนอก ทำพิธีสวดมนต์หรือกล่าวสักการะสถานที่มายาเทวี เวลาที่เหมาะสมในการเข้าสักการะ คือ ช่วงเช้า และช่วงเย็นเพราะแดดจะไม่ค่อยร้อนมาก ปัจจุบันได้มีการสร้างห้องน้ำเพิ่มเติมจากเดิมที่มีน้อย เสาอโศก จุดที่มีคนจำนวนมากของวิหารมายาเทวี คือบริเวณเสาอโศก ที่ชาวพุทธทุกคนจะเดินทางมาบริเวณนี้ เพื่อจุดธูปกราบไหว้สักการะ สถานที่ประสูติ ซึ่งสถานที่สำคัญของพระพุทธเจ้าทุกที่จะมีเสาอโศกที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างไว้จำนวนมาก เพื่อแสดงถึงความศรัทธาและเป็นการบ่งบอกว่า สถานที่ที่มีเสาอโศกมีความเกี่ยวข้องและสำคัญกับศาสนาพุทธ สถานที่แห่งไหนที่มีต้นอโศกให้มั่นใจได้เลยว่าใช่สถานที่ที่ควรกราบไหว้ ซึ่งเสาอโศกต้นนี้ มีความสมบูรณ์และสวยงาม แม้จะตั้งตระหง่านอยู่มานานหลายปีแล้วก็ตาม ซึ่งแต่ก่อนเสาอโศกนี้ยังไม่มีรั้วกั้น ชาวพุทธเมื่อมาสักการะก็จะมีการนำมือไปลูบคลำ จุดเทียนไหว้บ้าง วางดอกไม้ จุดธูป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ในระยะยาว ปัจจุบันนี้จึงได้มีรั้วเหล็กป้องกัน การปิดทองมีอยู่ทุกที่ ความเชื่อเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุข แต่บางครั้งก็ทำให้เกิดความไม่น่ามองเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก่อนตอนที่ยังไม่มีรั้วเหล็ก ทำให้ผู้ที่มาสักการะก็จะนำทองมาปิด รวมถึงจับลูบ ซึ่งตรงนี้เชื่อว่ามีความสำคัญมาก เป็นหินที่มีลักษณะคล้ายรอยเท้า ซึ่งใครที่มาก็จะต้องมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาประเทศเนปาล บริเวณกว้างขวางสามารถรองรับคนจำนวนมากได้ สถานที่มาหาเทวีแห่งนี้ ด้านในเป็นสวนขนาดใหญ่ สามารถบรรจุคนจำนวนมากได้ เพราะบริเวณโดยรอบได้ถูกจัดตกแต่งด้วยสนามหญ้า และทางเดินหลากหลายเส้นทาง จึงทำให้เวลาที่มีคนไทยจำนวนมากเดินทางมาสักการะจึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่อยู่ การเข้าสักการะนั้นมีคนจำนวนไม่มากเท่าที่พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ ถ้าหากว่ามาสีกการะแล้วต้องการนั่งสมาธิอยู่ที่นี่ก็สามารถทำได้สบาย การเดินทางเพื่อตามรอยพระศาสดาที่มหามายาเทวีถือเป็นความสุข ทำให้เราได้เห็นสถานที่จริงที่ตอนยังเด็กนั้นเคยได้เรียนในรายวิชาพระพุทธศาสนา และวันหนึ่งเราได้มรเห็นด้วยตา กับสถานที่จริง เป็นความฝันอย่างหนึ่งในการเกิดเป็นชาวพุทธโดยกำเนิด บางคนนั้นนับถือศาสนาพุทธเพียงแค่ในบัตรประชาชน แต่ไม่เคยรู้ว่าการเป็นชาวพุทธที่แท้จริงคืออย่างไร บางคนเป็นพุทธผสมผสานกับพราหมณ์ เชื่อเรื่องของตัวเลขบ้าง พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์หลากหลายอย่าง แต่แท้ที่จริงแล้วศาสนาพุทธคือการไม่เบียดหรือทำให้ทั้งตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน คนเราไม่ได้มีโอกาสบ่อยครั้งนักที่จะได้เดินทางตามรอยศาสนาพุทธ ตามรอยพระศาสดา ถ้าหากเรามีโอกาสสักครั้งในชีวิตจงไปในสถานที่ของพระศาสดาของศาสนรพุทธทรงสร้างและปูทางไวัแล้วเราจะเป็นผู้ใช้ขีวิตอย่างคุ้มค่าและมีความสุขใจมากขึ้น ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์