สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ใครที่เป็นสายธรรมะ สายปฏิบัติ มาทางนี้เลยค่ะ วันนี้ริณขอเล่าประสบการณ์ของการไปปฏิบัติธรรมในช่วงที่โควิดระบาดนะคะ ก่อนอื่นเลย ต้องกล่าวถึงสถานที่ก่อน นั่นก็คือวัดท่าซุงนั่นเองค่ะ วัดท่าซุงเป็นวัดชื่อดังสายปฏิบัติที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอย่าง หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ที่ผู้คนต่างพากันไปกราบไหว้สักการะ วัดท่าซุงมีการฝึกมโนยิทธิค่ะ การฝึกมโนยิทธิมีขั้นนะคะ ขั้นพื้นฐานของคนที่ไม่เคยฝึกเลย และก็การฝึกแบบครึ่งกำลัง กับการฝึกมโนยิทธิแบบเต็มกำลัง ซึ่งฝึกแบบเต็มกำลังจะมีแค่ปลายปีค่ะ ปกติใครที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดจะได้ฝึกขั้นพื้นฐานและแบบครึ่งกำลังค่ะแต่ที่น่าเสียใจก็คือตอนนี้ การฝึกมโนยิทธิในช่วงโควิดนี้ถูกงดไปค่ะ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ริณได้มีโอกาสเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าซุง ตอนนั้นวัดเพิ่งเปิดใหม่ๆ และนี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะ ที่ได้ไปปฏิบัติธรรม ซึ่งก่อนจะเข้าไปฝึกปฏิบัติธรรม เราต้องทำตามกฎระเบียบของวัดค่ะ ก็คือทำการมาตรการของวัด คือ 1.ต้องฉีดวัคซีตามที่วัดกำหนด ทางวัดจะมีการประกาศกฎออกมาค่ะว่าวัคซีนชนิดไหนต้องฉีดกี่เข็มถึงจะเข้าร่วมปฏิบัติธรรมได้ เข้าไปติดตามข่าวสารได้ที่ wattthasung.com 2.ต้องมีผลตรวจATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมงค่ะ 3.ต้องปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-Aริณไปวัดแต่เช้าเลยค่ะ เพราะไม่ได้เช็คเรื่องเวลา ใครที่จะไปปฏิบัติธรรมควรเช็คนะคะ เพราะที่นี่เค้าเป็นเวลาค่ะ พอไปถึงเราต้องไปลงทะเบียนรับกุญแจห้องพักช่วง 9.00น.-10.30น. ถ้ามาไม่ทันช่วงนี้ก็ มีลงทะเบียนอีกที ช่วง 14.00-16.00น.ค่ะ พอลงทะเบียนเสร็จจะได้กระดาษ1แผ่น ป้ายห้อยคอ กุญแจห้องพัก และก็บัตรสำหรับเบิกเครื่องนอนค่ะ ริณได้อยู่ห้องพักห้องที่ 9/2ค่ะ ได้อยู่กับกัลยานมิตรที่น่ารักสองคน จะบอกว่าริณไปคนเดียวค่ะ วัดท่าซุงมีเขตบริเวณวัดที่ใหญ่มากๆเลยค่ะ มาวันแรกริณก็มึนมากค่ะ พอเปลี่ยนเป็นชุดขาวปุ๊บ ริณจึงเดินออกมาจากห้องพัก กระดาษหนึ่งแผ่นที่ได้มา เป็นกำหนดการค่ะ และก็แผนที่ของวัด การมาปฏิบัติธรรมช่วงแนกริณแอบเสียใจเล็กน้อยค่ะที่การฝึกมโนยิทธิหายไม่มีในช่วงนี้ เนื่องจากว่าสถานที่ฝึกนั้นเป็นที่อับค่ะ เกรงว่าจะเกิดความเสี่ยงจึงยังไม่มีค่ะ กำหนดการนะคะ เวลา 8.30น.-9.00น.เป็นช่วงเวลาทำวัดเช้าค่ะ เวลา 11.00น.-14.00น.เป็นเวลาฝึกมโนยิทธิ (แต่ตอนนี้ไม่มีค่ะ) เวลา 17.30-19.00น.เป็นช่วงทำวัดเย็น***เวลาอาจคลาดเคลื่อนหน่อยนะคะ เนื่องจากริณลืม แต่น่าจะอยู่ในช่วงเวลานี้ค่ะ ช่วงแรกริณแอบเสียใจค่ะ แต่พออยู่ไปกลับรู้สึกว่าการมาฝึกปฏิบัติธรรมที่นี่ได้อะไรเยอะเลยค่ะ และสบายใจมากๆค่ะ คุ้มค่ามากค่ะที่ได้มา คนที่มาฝึกปฏิบัติธรรมที่นี้ล้วนจิตใจดี น่ารัก แม่ชีก็น่ารักมากๆค่ะ วันแรกริณไม่รู้อะไรเลยค่ะ จึงสอบถามคนรอบข้างค่ะว่าปกติคนที่มาปฏิบัติจะทำอะไรบ้างคะ คำตอบที่ได้คือ ทำอะไรก็ได้ค่ะ บางคนเลือกที่จะช่วยวัด บางคนเลือกที่จะเดินเที่ยวรอบวัด ริณเลือกที่จะช่วยวัดค่ะ ด้วยแรงน้อยนิด ริณเลยกวาดใบไม้หน้าหอพักหญิงค่ะ แต่กวาดได้ไม่นานค่ะ ริณก็เดินสำรวจวัดและหาอาหารกลางวันรับประทาน ริณมาวัดครั้งแรกจึงไม่รู้อะไรเลย จึงใช้การเดินค่ะ เมื่อยมากๆค่ะ แต่รอบๆวัดสวยมาก รู้สึกอิ่มเอมมากค่ะ ได้เดินผ่าน ศาลา 4ไร่ ปราสาททอง หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา จนมาถึงวิหารแก้ว 100 เมตร และไปพักค่ะ ริณเห็นมีคุณยายที่เป็นเจ้าหน้าที่ของวัดทำหน้าที่กวาดใบไม้ ริณเลยได้ไปร่วมช่วยค่ะ วันแรกได้ช่วยกวาดใบไม้อย่างเดียวเลยค่ะ แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ พอกวาดเสร็จ พี่ที่ดูแลร้านก็ให้นมเปรี้ยวค่ะ เอาไว้่ดื่มต้อนเช้า และมีคนให้ขนมด้วย แม้จะเล็กน้อยแต่นี่คือน้ำใจจริงๆค่ะ วันที่2 ริณก็ทำเหมือนเดิมค่ะ กวาดใบไม้หน้าหอพัก และไปสวดมนต์ทำวัดเช้า และไปที่ช่วยยายกวาด และได้เจอกัลยานมิตรใหม่ เป็นพี่ผู้หญิงท่านหนึ่ง พี่เค้ามาช่วยยายกวาดใบไม้ทุกวันที่มีเวลา มีเค้าจึงแนะนำให้ไปกราบสรีระสังขารของหลวงพ่อพระราชพรหมญาณที่วิหารแก้ว 100ปีค่ะ เราตามพี่เขา ก่อนอื่นไปกรทบไหว้พระพุทธเจ้าก่อนค่ะ และทำบุญหยอดตู้โดยเอาเงิน20 แรกเป็นเหรียญบาทหยอดตู้ ตู้ละ1บาท ทำบุญได้ครอบค่ะ หลังจากนั้นจึงไปไหว้สรีระสังขารของหลวงพ่อค่ะ พี่เขาเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างจนมาถึงจุดนี้ มาศรัทธราในหลวงพ่อท่าน ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยค่ะ เรารู้สึกดี พอแยกกับพี่เขา ริณเลยเลือกที่จะเข้าไปรับใช้หลวงพ่อ ด้วยการยกพานที่ผู้คนทำบุญและถวายพรพุมบูชาหลวงพ่อค่ะ จนทำให้ได้เจอกับกัลยานมิตรเพิ่มเข้ามาอีกครั้ง ริณได้เจอกับพี่ท่านหนึ่ง เค้าเป็นพี่ที่มีความศรัทธาและเลื่อมใสในการทำบุญเป็นอย่างมากค่ะ และแม่ชีที่น่ารักมากๆ ริณจะขอเล่าเกี่ยวกับพี่ที่พาริณไปทำกุศลต่างๆว่าเค้าสอนอะไรริณบ้างนะคะ พี่เค้าน่ารักมาก ริณไม่เคยรู้ว่าการถวายบายศรีให้พระนั้นจะเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่พอๆกับการสร้างวัดสร้างวิหารเลยค่ะ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ริณอยากจะเผยแพร่ให้ทุกคนรับรู้ค่ะเพราะที่ผ่านมานั้นริณเคยแต่ใช้ดอกไม้ธูปเทียนธรรมดาๆถวายให้พระพุทธรูป และรู้จักแต่บายศรีเทพ กับบายศรีปากชาม ที่ถวายเทพ แต่คนที่นี่เค้าศรัทธามากกับการทำบายศรีถวายพระพุทธเจ้าค่ะ เราจึงร่วมกันทำพานบายศรีถวายพระพุทธเจ้าในคืนสุดท้ายกันค่ะ 5วันที่ได้มาอยู่่ที่นี่ล้วนได้ประสบการณ์หรือเหตุการณ์อะไรที่สอนเราว่าเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เจอวิบากกรรมที่หนักหน่วงเหมือนคนอื่นเค้า อุปสรรคใดๆในชีวิตที่เราเจอในวันนี้ ที่เราคิดว่าแย่นั้น ถ้าลองมองออกไปในคนรอบข้างแล้ว มีคนที่แย่ยิ่งกว่าเราอีกมากมาย ดีใจค่ะที่ได้มาฝึกปฏิบัติที่นี่มากๆค่ะ สรุปส่งท้ายนะคะ ใครที่คิดว่าตัวเองทุกข์หากมีเวลา ลองเข้ามาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ได้นะคะ สำหรับสายปฏิบัติที่ไม่ได้เคร่งมาก อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่าที่นี่เค้าจะนอนพร้อมกันในเวลา 21.00น.นะคะ สำหรับบทความนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ อาจจะไม่ระเอียดมากนัก ข้อมูลผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ เครดิตรูปภาพทั้งหมด : คุณ ริณดาเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !