มะตูมกาส่องสว่าง ในท่ามกลางความมืดรอบข้าง ไฟที่ถูกจุดเพื่อแสงสว่างจากทั้งสี่มุม ในคืนวันออกพรรษา เชื่อว่าแสงสว่างจะนำทางสรรพสิ่งที่มองไม่เห็นให้ได้พบแสงสว่าง หนทางแห่งมหาบุญกุศล ตั้งแต่เด็กจนโตเห็นญาติผู้ใหญ่ในบ้านต่างให้ความสำคัญ พอใกล้วันออกพรรษาจะพากันรวมกลุ่ม เพื่อเดินทางออกไปเก็บข้าวที่มีน้ำนมพอดีไม่แก่หรืออ่อนเกินไป เพื่อนำมาตำเพื่อทำน้ำนมข้าว ลงไปรวมกับชาวบ้านในวัดเพื่อกวนข้าวทิพย์ มีกล่าวไว้ในตำนานของนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาส หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อข้าวทิพย์ ข้าวชนิดนี้มีการใส่วัตถุดิบที่ชั้นดี ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำนมข้าว นมข้นหวาน น้ำตาล ถั่ว งา ธัญพืชต่างๆมากมายหลายชนิด ต้มให้สุกแล้วผสมเข้าไปด้วยกัน เคี้ยวจนงวดเหนียวคล้ายกับกาละแม เมื่อเสร็จแล้วจะนำถวายพระในบ้าน แต่สำหรับอีกมุมหนึ่งในมุมของพิธีสงฆ์หลังจากเสร็จจากพิธีเริ่มการกวนข้าวมธุปายาสแล้ว จะมีการ ทำพิธีอย่างหนึ่งในคืนวันออกพรรษา นั่นคือการจุดตูมกา ก่อนที่จะถึงวันจุด จะเดินทางขึ้นไปบนภูเขา เก็บมะตูมกาในต้นเพื่อนำมาไว้ที่วัด จากนั้นจะล้วงไส้ตูมกาออกทั้งหมดจนเหลือเพียงเปลือกนอกหรือกะลามะตูม เพื่อเตรียมจุดไฟในคืนวันออกพรรษา วิถีของชาวภูไทในคืนวันออกพรรษา (พิธีสงฆ์) วันพระใหญ่ยายจะพาลงนอนวัดจำศีลเป็นประจำ พอจะถึงวันออกพรรษาจะพิเศษกว่าทุกวัน เพราะจะต้องเดินเท้าออกไปกลางแจ้ง ต้องอุ้มเก้าอี้ไปคนละตัว เพราะด้วยความที่ความสูงยังไม่ถึงที่จุดลูกตูมกา หลังจากจุดแล้วเราจะมีความสุขมากกับการเฝ้ามองดูน้ำตาเทียนหยดลงจนเหลือเพียงไส้ของเทียน พิธีกรรมนี้เป็นพิธีกรรมหนึ่งของประชาชนชาวพุทธ ที่เชื่อในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เปลวเทียนนั้นเปรียบเหมือนแสงสว่างที่ส่องทาง ในอดีตนั้นสังคมมนุษย์ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ พอเริ่มรู้จักวิธีการใช้ไฟ จะมีเพียงตะเกียงส่องสว่าง ในวันเข้าพรรษาจะมีการถวายเทียน พอในวันออกพรรษาชาวบ้านต่างพากันทำบุญจึงมาที่วัดในตอนกลางคืน สิ่งนี้ถือเป็นวิถีของชาวภูไท ที่คุณยายคุณตาลงมาจำวัดที่วัดในวันพระใหญ่ สร้างแสงสว่างจุดลูกตูมกา มีทั้งความสวยงามและแสงสว่างให้กับทุกคนในวัด กว่าจะมาเป็นลูกตูมกาวางอยู่ หลังจากที่หาตูมกามาได้แล้ว จะต้องมีการขูดเปลือกและเมล็ดด้านในของผลตูมกาออกจนเกลี้ยง และขัดให้เกลี้ยงเมื่อเสร็จแล้วจะนำไปตากแดด ให้แห้ง จากนั้นเตรียมเพื่อที่จะนำไปจุด ซึ่งลูกตูมกานี้ ไม่สามารถรับประทานได้ เพราะลูกตูมกาเป็นไม้ป่า ใช้ในการให้แสงสว่างซึ่งปัจจุบันนี้ ได้นำมาทำเป็นของที่ระลึกเช่นไฟส่องสว่าง ของตกแต่งบ้าน ลักษณะของลูกตูมกาด้านนอก ลูกตูมกาก่อนที่จะนำมาจุดได้ จะต้องนำมาจากต้น บางลูกหล่นจากต้นบางลูกก็บังคับให้หล่น นำมาลอกเปลือกออกทั้งด้านนอกและด้านใน เมื่อนำไปตากแดดแล้วจะเห็นถึงความงามขาวผ่อง ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น การปลูกไม้ประดับบางชนิด ปลูกกล้วยไม้ และอีกหลายอย่าง สานแพไม้ไผ่ก่อนจุด (เพื่อความปลอดภัย) แพไม้ไผ่สานเป็นรูปร่างต่างๆ ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมไม้ร่วมมือกันนำมาผ่าและสานเป็นแพ อยู่ที่มุมมอง และจินตนาการของคนทำว่าต้องการให้มีรูปร่างแบบไหน บางที่ลักษณะเหมือนกับเรือ เป็นสะพานบ้าง การสานจะต้องเว้นช่องว่างให้พอดีกับลูกตูมกาวางอยู่ ซึ่งนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังมีความปลอดภัยเกี่ยวกับการเกิดอัคคีภัย หรือไฟไหม้ พื้นด้านล่างจุดในพื้นดินที่เป็นหญ้า มีการถางหญ้าออก เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เพราะตูมกาตั้งอยู่สนิทไม่ว่าลมจะแรงขนาดไหน จะไม่ตกลงมา แม้ลมหนาวจะเริ่มมาเยือนถิ่นภูไทแล้ว ในการจุดจะต้องจุดสามารถใช้ไฟฉายส่องเพื่อทำให้การจุดสะดวกขึ้น การต่อเทียน เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างสมาธิให้กับผู้ที่จุดต่อไฟแต่ละดวง ลำดับในการจุดตูมกา ขั้นตอนแรกการให้แสงสว่างจะเริ่มที่พระสงฆ์เริ่มจุดเริ่มพิธีก่อน ตามมาด้วยแม่ อุบาสก และอุบาสิกาที่สวมชุดขาว อาจจะมีชาวบ้านที่มาร่วมจุดด้วย จุดจากทั้งสี่มุม จากหนึ่งไปสอง จนครบทั้งหมด จำนวนในการจุดนั้นไม่จำกัดจำนวน มากเท่าไหร่นั้นอยู่ที่ชาวบ้านที่เข้าไปในป่าจะหามาได้ บางปีได้เยอะก็จุดเยอะ ได้น้อยก็ตามจำนวน รักของลูกตูมกาจากป่าสู่บ้าน ลูกตูมกากับการพรากจากพ่อแม่ ชีวิตของตูมกาที่เคยอาศัยอยู่กับแม่ในป่า อย่างมีความสุข แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปทำให้ต้องพรากจากครอบครัวเพื่อมาทำประโยชน์ที่สูงสุดให้กับมนุษย์ แม้เส้นทางชีวิตของลูกตูมกาแต่ละลูกจะไม่รู้ว่าตนเองนั้นจะต้องเจออะไรบ้าง ไม่รู้แม้กระทั่งว่า จะได้ทำประโยชน์หรือไม่ ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องแตกหรือเสียหายไปก่อน ไม่มีใครรู้ได้ สิ่งที่ลูกตูมกาต้องทำ และไม่สามารถต่อต้านได้ เพียงเพราะหน้าที่ไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกเอง เรือรักไม้ไผ่ ถือเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่ร่วมแรงกันสร้างขึ้นมา ความสูงของที่วางตูมกานั้นจะอยู่ในระดับหน้าอกหรือคอ สูงประมาณ 150 เซนติเมตรโดยประมาณ เพื่อให้สะดวกในการจุด ถ้าต่ำเกินไปอาจจะไม่ปลอดภัยกับสัตว์สี่เท้าอย่างเช่นสุนัข อาจจะพลาดชนล้มแล้วทำให้เกิดความวุ่นวาย เทียนไขสีขาว เทียนไขสีขาว ที่ส่องสว่างในยามค่ำคืนเปลวเทียน ค่อยๆหลอมละลายลงหายไป เปรียบได้กับชีวิตของคนเราที่ยิ่งนานวันยิ่งค่อยๆขาดหายลงไปทุกทีจนกลายเป็นน้ำตาเทียนคงเหลือไว้เพียงความงามให้ชม ชีวิตของคนก็เช่นกันยิ่งนานวันยิ่งสั้นลง จากนั้นโลกก็จะทำให้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา อยู่ได้เพียงชั่วข้ามคืนก็ดับสลายหายไป เปรียบกับชีวิตขอเพียงตอนเช้าได้ตื่นลืมตาขึ้นมา ก็ถือว่ามีชีวิตดำเนินต่อไป ซึ่งอีกหลายคนบนโลกที่เขาไม่ได้มีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาบนโลกเฉกเช่นเรา เพราะฉะนั้นเราจงภูมิใจที่โลกใบนี้ยังให้เราได้ดำรงอยู่เพื่อสร้างความดี สวยบ้างขี้เหร่บ้าง ปะปนกันจนเป็นหนึ่งเดียวคือความงาม ศิลปะคือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา ความงามของสิ่งของแต่ละชิ้นนั้นมีความงามในมุมไม่เหมือนกัน ลูกตูมกานั้นบางลูกอาจจะมีความหนาบางต่างกัน บางลูกอาจจะสวย บางลูกอาจจะไม่เรียบแต่ สิ่งสำคัญขอแค่เพียงใช้ประโยชน์ได้ก็ถือว่าดีแล้ว เมื่อลูกตูมกาถูกจุดไฟรวมกันจำนวนมาก จะลงตัวและสวยงามยิ่ง เหมือนกับคนเราแม้จะไม่สวยหรือหล่อ แต่เมื่อรวมกันจำนวนมากก็ลงตัวพอดี คนไม่สวยยังสามารถทำประโยชน์และทำความดีให้กับสังคมได้เช่นกันไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร ขอเพียงภูมิใจในตัวของตน ไฟเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับคนเรา บางครั้งเรานั้นจะได้ยินคำว่าคนมีไฟในการทำงาน คนหมดไฟ ซึ่งไฟยังเปรียบได้กับชีวิตของคนเรา หนทางที่ทอดยาวไปคนที่มุ่งมั่นคนที่ยังมีไฟเท่านั้นจะประสบความสำเร็จ ถ้าเมื่อไหร่ที่หมดไฟแล้วก็คงเหลือแต่วันที่จากโลกนี้ไป ลูกตูมกาก็เช่นเดียวกัน ในครั้งที่มีแสงไฟนั้นลูกตูมกายังคงมีประโยชน์ มีความสวยงาม แต่หลังจากนั้นที่เทียนหลอมละลายหมดลงไป ลูกตูมกาก็หมดสิ้นความงาม อาจจะกลายเป็นเชื้อเพลิงในการก่อไฟของมนุษย์ แสงเทียนที่ส่องในลูกตูมกาสีขาวน้ำตาเทียนย่อมเป็นสีขาว ถ้าเทียนเหลืองลูกตูมกาก็เปลี่ยนสีตาม ส่วนตูมกาที่เป็นสีดำ คือหมดสิ้นแล้วกับแสงเทียนแห่งชีวิต การจุดลูกตูมกาทำให้คนผู้จุดปลงกับความเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งบนโลก ไม่มีสิ่งไหนที่สวยงามและอยู่บนโลกนี้ตลอดไป นอกจากความดีที่เราได้สร้างไว้ ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !