ในโอกาสที่เรียลลิตี้ธรรมะดูสนุก “สามเณรปลูกปัญญาธรรมปี 9” กลับมาอีกครั้ง เริ่มถ่ายทอดสด 7 เมษายนนี้ ทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ เอชดี ช่อง 119 และ 333 เพจ เที่ยววัด ไหว้พระ ทำบุญ ของเราขอร่วมส่งเสริมการทำดี จากบทความ เอาใจสายบุญ! ข้อห้าม-ความเชื่อเมื่อต้องเข้าวัด ได้รับกระแสตอบรับด้วยดี คราวนี้มาว่ากันถึงเรื่องข้อห้าม – มารยาทการทำบุญยุคใหม่ การใช้ชีวิตประจำวันเราอาจเผลอไผลทำสิ่งต่าง ๆ อันเป็นบาปโดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องระวังในการทำบุญของสังคมยุคใหม่กันครับ1. ไม่ทวงเงินทำบุญจากผู้อื่นเคยไหม “เธอ ซองกฐินขอภายในวันนี้นะ” , “พี่ใส่ชื่อกรรมการผ้าป่าให้แล้วนะ โอนมาเลขที่บัญชี…” ผมย้ำเสมอว่าหลักการทำบุญที่ดี หากทำแล้วตัวเรากับครอบครัวเดือดร้อนเจ้าภาพจะเป็นบาป เรื่องแบบนี้บังคับกันไม่ได้ บุญเกิดด้วยจิตศรัทธา หากเรามีโครงการทำบุญโดยมารยาทแล้วต้องเปิดโอกาสร่วมบุญด้วยความสมัครใจ ไม่ถาม ไม่ทวง หากเค้าไม่จ่ายแสดงว่าไม่สะดวกด้วยเหตุปัจจัยต่าง ๆ มิควรบังคับจนเกิดบาปไม่รู้ตัว 2. ไม่สร้างเงื่อนไขการทำบุญยุคนี้การทำบุญกลายเป็นเรื่องทางสังคม เช่นงานบวชเจ้าภาพจัดโต๊ะจีนควรใส่ซองเท่าไหร่ ยังไม่ทันไปคำนวณราคาเฉลี่ยต่อหัวมาให้แล้ว “ใส่เท่านี้พี่ขาดทุน” ทั้งที่ไม่มีใครใช้ให้จัดงานใหญ่โตเลย งานบุญที่เริ่มต้นสร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง แล้วมันจะได้บุญมั้ย? ต่อเนื่องจากข้อแรกคือเราจัดงานใหญ่ได้ แต่ต้องไม่มีคำพูดเชิงกดดันอันนำพาเกิดเงื่อนไขเป็นตัวเงิน ไม่ไปพูดนินทาลับหลังว่าบ้านนั้นใส่ช่วยเราแค่นี้ ดูคนนั้นสิ 20 บาทใส่มาได้! เกิดความคิดนี้แวบเข้ามาในจิตแม้ช่วงเวลาสั้น ๆ บุญนั้นพลันหายกลายเป็นอย่างอื่นในทันที3. แจ้งให้ชัดว่าหักค่าอะไรจากเงินทำบุญเมื่อได้เงินทำบุญก้อนหนึ่ง โดยเจตนารมณ์ของผู้คนคือต้องการ “ทำบุญกับวัด” ไม่มีใครหรอกรู้สึกดีเมื่อทราบว่าเงินทำบุญเรากลายเป็นค่าเบียร์บนรถผ้าป่า , กลายเป็นค่าน้ำมันรถพี่น้อง , กลายเป็นชุดเช่าเสริมหน้าตาญาติเจ้าภาพ หากไม่แจ้งก่อนไม่ต้องสงสัยว่าบาปทั้งนั้น! การชักเงินออกจากกองบุญจะทำโดยตามใจชอบไม่ได้ “เงินออกจากมือเรา คือเงินของวัดแล้ว” โดยมารยาทหากต้องการนำเงินไปใช้ปัจจัยด้านความบันเทิง ต้องแยกก้อนนั้นออกมาอย่างชัดเจนว่าซองนี้ช่วยค่าดำเนินการว่ากันไป ต้องไม่ปะปนกับเงินของผู้ต้องการทำบุญ4. จะทำบุญทำเลย! ไม่ต้องแท็กชวนคนอื่นเมื่อรู้สึกเห็นอะไรน่าสงสาร เกิดความรู้สึกอยากทำบุญ หลายคนแท็กเพื่อนในเฟซบุ๊กหลายสิบคนทั้งรู้จัก-ไม่รู้จักกัน ชักชวนให้มาร่วมทำบุญอำนวยความสะดวกแปะ QR Code เสร็จสรรพ สร้างความกดดันให้ผู้ร่วมถูกแท็ก หลายคนเห็นเป็นหัวหน้าเป็นญาติผู้ใหญ่ปฏิเสธไม่ได้อันนำพาซึ่งภาระทางครอบครัว “ถ้าคนอื่นอยากทำ เดี๋ยวเค้าทำเอง” ในสังคมยุคใหม่ผูกติดการทำบุญผ่านโซเชียลต้องดูความสมัครใจของผู้อื่น5. ไม่สนับสนุนพระทำผิดวินัยสงฆ์หลายสิ่งต้องปรับตามยุคสมัย แต่บางอย่างคือพระธรรมวินัย จะว่าเอาตามความสะดวกของผู้คนไม่ได้ เช่นพระยืนรับบาตรประจำจุดตามท้องตลาด บางคนก็ชอบแบบนี้ง่ายดี นอกจากผิดพระธรรมวินัย ยังผิดมติมหาเถรสมาคมที่ 454/2563 คลิก! ว่าด้วยเรื่องการกลับเข้าวัดเกินเวลาที่กำหนด , รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น , ถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก หรือยืนปักหลักบิณฑบาตบริเวณหน้าร้านค้า การทำบุญลักษณะนี้จัดว่าสนับสนุนการทำผิดพระธรรมวินัย ส่วนจะได้บุญหรือไม่พึงตรองดู6. พึงสำรวมเวลาปฏิบัติธรรมนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมคือสิ่งดี แต่หากมิพึงสำรวมเช่นเชลฟี่อัปเดตโซเชียลทั้งวัน หากเป็นวัดเคร่งครัดไม่มีปัญหา แต่ในความเป็นจริงคงได้เห็นผ่านตาทางหน้าเฟซบุ๊กบ้างแล้วล่ะ รวมถึงประสบการณ์ของผู้เคยไปปฏิบัติธรรมเอง เรื่องนี้ไม่ใช่สิทธิส่วนบุคคล แต่เป็นมารยาททางสังคมพึงควรปฏิบัติมิให้รบกวนผู้อื่น การสร้างความคิดขุ่นมัวเพียงเล็กน้อยให้รอบข้างตำหนิติเตียน กระทบสมาธิผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่นก็เป็นบาปได้เหมือนกัน7. ให้เกียรติสถานที่วัดแม้หลายวัดยุคนี้ดูเหมือนสถานที่ท่องเที่ยว แต่ต้องพึงเคารพขอบขัณฑสีมาเช่นโบสถ์ , พระพุทธรูป การแต่งกายควรมิดชิดเหมาะสม น้ำหอมไม่กลิ่นแรงอันรบกวนผู้อื่น เสียงโทรศัพท์ไม่รบกวนกิจของสงฆ์ ไม่เอะอะเสียงดัง สำรวมกาย วาจา ใจ คิดเสมอว่า “นี่คือวัด” ไม่ได้มาเที่ยวแต่มาทำบุญ ฉะนั้นการมาวัดควรได้บุญกลับไป8. มารยาทการถ่ายรูปภายในวัดเช่นไม่ถ่ายรูปลักษณะโฟกัสผู้อื่นที่กำลังทำกิจกรรมทางศาสนา นอกจากเรื่อง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ยังเป็นการกระทบสมาธิของผู้ทำบุญซึ่งบางท่านไม่ต้องการถูกรบกวน รวมถึงการถ่ายรูปอย่างไม่เหมาะสมเช่นขึ้นเหยียบอาสน์สงฆ์ (ที่ยกพื้นสำหรับพระสงฆ์นั่ง) อยากได้ภาพชัด ๆ มีอะไรเหยียบหมด เชลฟี่กับพระพุทธรูป เค้านั่งสมาธิกันยืนโด่ถ่ายรูปคนเดียว ฯลฯ และการถ่ายรูปในที่ติดป้ายห้ามถ่ายอันละเมิดข้อห้ามวัด มาทำบุญลักษณะนี้แม้ได้บุญก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มีอันแต่สร้างความรบกวนผู้อื่น9. ใช้ปัจจัยของวัดโดยไม่ได้รับอนุญาตไลฟ์ทำบุญมาเกือบชั่วโมงแบตใกล้หมด เจอปลั๊กไฟว่างเสียบชาร์จเลย! อันที่จริงสิ่งเล็กน้อยไม่มีวัดไหนหวงหรอก แต่หลักการของสายมูคือไม่ว่าจะเอาสิ่งใดจากวัด “พระท่านต้องเอ่ยวาจาอนุญาต” จึงสามารถหยิบจับหรือใช้ได้ มิฉะนั้นถือเป็นการเบียดบังทรัพย์สินของวัด เกิดบาปโดยไม่รู้ตัว เป็นเคล็ดการทำบุญจำไว้ข้อแรกคือจะทำอะไรกระทบกับค่าใช้จ่ายวัดเช่นกระแสไฟ , น้ำจากก๊อก , เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ หากไม่มีพระสงฆ์ให้ขออนุญาตบริเวณนั้น ไม่มีป้ายบอกว่าใช้ได้ นำปัจจัยใส่ตู้รับบริจาคอธิษฐาน “ขอชำระหนี้สงฆ์ เรื่อง…” เป็นอันหักล้างไม่ติดค้างกัน10. โพสต์เรียกยอดไลก์โดยไม่ตรวจสอบบางอย่างอาจไม่เป็นอย่างที่คิด.. ตามสื่อโซเชียลอะไรเกี่ยวกับวัด เกี่ยวกับพระได้รับความสนใจมาก “ภาพเดียวตัดสินอะไรไม่ได้” ความจริงปรากฏคนรุมด่าแยกย้ายไม่ได้แชร์แก้ข่าวให้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร ขัดแย้งกับหลักธรรมพึงใช้สติรับฟังก่อนเชื่ออะไร ยุคนี้ข่าวสารรวดเร็วเพียงปลายนิ้ว การร่วมทำบาปย่อมง่ายตามไปด้วยเป็นเกร็ดความเชื่อที่ได้รวบรวมจากประสบการณ์ส่วนตัว ผลบุญ-ผลกรรมคือเรื่องละเอียดอ่อน ต้องใช้วิจารณญาณในการเชื่อ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านครับ ชาวเพจเที่ยววัด ไหว้พระ ทำบุญ อย่าลืมร่วมส่งกำลังใจให้เหล่าสามเณรทั้ง 12 รูป เรียนรู้ธรรมะผ่านหน้าจอกันตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านโครงการ “สามเณรปลูกปัญญา ปี 9” ทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ เอชดี ช่อง 119 หรือ 333 และแอปพลิเคชันทรูไอดี 👉 รับชมไฮไลต์ (สรุปกิจวัตรประจำวัน) ได้ทาง True4U ช่อง 24 เวลา 05.00 น. 👉 ทาง TNN ช่อง 16 เวลา 04.30 น. ช่อง ID Station บน TrueID เวลา 16.00 น.👉 ชมสดได้ที่ https://ttid.co/UAnK/lsim5gfd อยู่เป็นเพื่อนกับทุกคนตลอด 1 เดือนเต็ม สายบุญทุกคนพลาดไม่ได้ครับ 🤗 .. #ทรูปลูกปัญญา #สามเณรปลูกปัญญาธรรม #สามเณร9 #truelittlemonk #TrueID #True4U #ธรรมะออนไลน์ภาพประกอบโดย ภาพปก nangfagraphic : พื้นหลัง / Pixabay kengkreingkrai : ภาพที่ 1 , nangfagraphic : ภาพที่ 2 , jwasharapol : ภาพที่ 3 , Idaytripth : ภาพที่ 4 , Tik_Pitak : ภาพที่ 5 , kalyanayahaluwo : ภาพที่ 6 / สามเณรปลูกปัญญาธรรม : ภาพที่ 7 ร่วมพูดคุย ติดตามเรียลลิตี้ธรรมะดูสนุก"สามเณรปลูกปัญญาธรรมปี 9" ของสามเณรน้อย พร้อมกิจกรรมและของรางวัลมากมาย