ผมขอเริ่มเดือนกุมภาพันธ์ด้วยการพาไปมู ที่วัดป่าพรหมยาน วัดสายมูใกล้กรุงเทพฯ กันนะครับ วัดนี้ไม่ค่อยดังมากเท่าไหร่ในหมู่สายมู ผมเองจะมาเล่าประสบการณ์การเที่ยววัดป่าพรหมยาน เริ่มต้นด้วยการที่อยากหนีความวุ่นวายของเมืองหลวงอีกตามเคย ผมมีเวลาไม่มากพอที่จะไปค้างได้ เลยชวนแผนหาที่ทำบุญกัน บังเอิญไปเจอเพจดังเพจหนึ่งถ่ายภาพพระพุทธรูปกลางแจ้งองค์สีเขียวมรกต ไม่รอช้ารีบหาข้อมูลของวัดแล้วมุ่งหน้าไปทันทีครับ วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก โดยตั้งอยู่ใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ผมจะทิ้งพิกัดของวัดไว้ด้านล่างบทความนะครับ เพราะผมเองก็พึ่ง GPS เหมือนกัน หลังจากขับรถตามพิกัดมาเรื่อยๆจนถึงวัด เมื่อลงจากรถสิ่งแรกที่เห็นคือความสงบของวัด ต้นไม้ใบหญ้าดูร่มรื่นเย็นตา ที่แรกที่ผมไปคือป้ายผังของวัดเพื่อจะได้รู้ว่ามีสิ่งไหนตรงไหนเป็นจุดที่ควรเข้าไปบ้าง พระอุโบสถ จุดแรกที่ผมเดินไปจากแผนที่คือหมายเลข 1 พระอุโบสถ ซึ่งเดินเข้าไปจากจุดที่ผมยืนดูแผนที่ไม่กี่ก้าว ซึ่งพระอุโบสถนั้นอยู่ทางด้านขวามือ ลักษณะเป็นสีขาว สร้างแบบร่วมสมัย แต่ยังคงช่อนความลงตัวของสถาปัตยกรรมไทย และตะวันตกได้อย่างลงตัว พระอุโบสถ ตั้งอยู่บนฐานสูง มีซุ้มประตูทางเข้าเป็นโดมโค้ง รอบด้านมีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ ล้อมรอบพระอุโบสถ หากดูด้วยตาเปล่าจะเห็นว่ารอบๆพระอุโบสถหลังนี้ไม่มีใบเสมา แต่มีการยกช่อฟ้าแล้ว หมายถึงว่ายังไม่มีการฝังลูกนิมิตรผูกพัฒธสีมา เป็นพระอุโบสถ เพียงแต่รอการสร้างให้เสร็จอยู่นั่นเองลานบรมพุทธจักรวาล สมเด็จองค์ปฐม เรืองแสง เดินออกมาข้างๆพระอุโบสถมีพระพุทธรูปที่เป็น แลนด์มาร์กของวัดนี้คือ ลานบรมพุทธจักรวาล สมเด็จองค์ปฐม เรืองแสงเชื่อกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าสมณะโคดม ที่วัดนี้สร้างพระพุทธรูปปางค์มารวิชัย ลงสีเขียวกลางแจ้ง ประทับอยู่บนฐานชุกชี แล้วมีดอกบัวรองฐานล่างสุดอีกชั้น อยู่ท่ามกลางพระพุทธรูปสีขาวซึ่งแทนพระพุทธเจ้า อีก 28 พระองค์ ล้อมรอบอยู่ การบูชาสมเด็จองค์ปฐม คือการขอให้ จิตใจ สว่างสดใส หลุดพ้นจากการเวียนไหว้ตายเกิด หากมองด้านหน้าที่พื้นของท่านจะเป็นเป็นรูปวาดปลาอานนท์ว่ายวนอยู่ในน้ำล้อมรอบท่านท่าน เสมือนเป็นการจำลองเขาพระสุเมรุ ที่เป็นศูนย์กลางของจักรวาล เหมือนพระพุทธเจ้าทั้งหมดได้มาประชุมกันที่นี่นั่นเองหันไปเบื้องหน้าสมเด็จองค์ปฐม ยังมีพระพุทธรูปหันหลังให้เราอีกองค์หนึ่งซึ่งถือเป็นอีกมุมถ่ายภาพที่ดีอีกมุมครับพระพุทธรูปปางค์มารวิชัยที่ล้อมรอบอยู่ ผ่านกาลเวลา ผ่านแดด ลม ฝน ทำให้เกิดความงดงามอีกแบบพญาศรีสัตตนาคราช เดินถัดไปอีกนิดหน่อย ก่อนขึ้นสะพาน จะพบกับ พญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งเพื่อนๆคนไหนสายมูสายพยานาค สามารถขอพรเรื่องโชคลาภ การงานการเงิน จริงๆความเชื่อเรื่องพญานาค เองอยู่คู่กับชาวไทยมาช้านาน โดยเฉพาะแถบลุ่มแม่น้ำโขง ที่โด่งดังน่าจะเป็นที่บริเวณคำชะโนด จ.อุดรธานี เพราะพญานาคหากบูชาท่าน ท่านจะประทานโชคลาภ ความสำเร็จให้แก่ผู้กราบไหว้บูชาท่าน ส่วนคำสวดบูชาจะอยู่ด้านหน้าองค์ท่านอยู่แล้ว เพื่อนๆ ลองไปขอท่านดูนะครับ พญาศรีสัตตนาคราช ที่นี่นั้น ท่านอยู่ในร่างแบบมนุษย์ นั่งห้อยพระบาทขวาบนบัลลังก์นาค 7 เศียร แผ่พังพารปกคลุมท่านอยู่ ด้านหน้ามี พญานาคบริวารท่าน 2 ตน เฝ้าทางเข้าอยู่ ดูน่าเกรงขาม วิหารหลวงพ่อโตทันจิต วิหารศักดิ์สิทธิ์กลางน้ำ เดินต่อมาข้ามสะพานไปที่เกาะกลางน้พจะเจอวิหารหนึ่งซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อโตทันจิตองค์ใหญ่อยู่ภายในวิหาร เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าวิหาร มีพระพุทธรูปประจำวันเกิด อยู่ตรงข้ามกับพระพุทธรูปปางค์เปิดโลกสีทองซึ่งด้านหลังเขียนภาพสวรรค์ไว้อย่างวิจิตร ซึ่งเราสามารถจุดธูปเทียนไหว้พระจากจุดนี้ครับ เดินเข้ามาด้านในวิหาร เบื้องหนเาจะพบหวงพ่อโตองค์ใหญ่สีทองอร่าม เป็นพระพุทธรูปปางค์ปฐมเทศนา นั่งแสดงธรรมอยู่ เมื่อขอพรจะได้ดั่งใจคิด นอกจากนี้ภายในวิหารกลางน้ำ ยังไม่โลงแก้ว บรรจุร่างของอดีตเจ้าอาวาส เราสามารถสะเดาะเคราะห์ด้วยการลอดใต้โลง เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ได้ครับศาลท่านแม่นารีผล มาถึงที่สุดท้ายที่ผมจะพาเพื่อนๆ มามูกันในวันนี้คือศาลท่านแม่นารีผล เป็นศาลาไม่ใหญ่มากอยู่ริมน้ำ ตั้งอยู่บนเกาะเดียวกับวิหารหลวงพ่อโตทันจิต ซึ่งศาลนี้จะอยู่ด้านหน้าขวามือ เมื่อเดินข้ามสะพานมา สำหรับนารีผลนั้น เป็นผลไม้ทำหน้าที่เฝ้าป่าหิมพาน ที่นี่ศาลนี้คนนิยมมาขอโชคลาภ และเลขเด็ดกันโดยการจุดธูป ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลารอสักหน่อย แต่ผมบอกความปังของที่นี่ คือ ปมถูกเลขท้าย 2 ตัวจากการจุดธูปไหว้ท่านแม่ครับ อาจกล่าวได้ว่าวัดนี้ไม่เป็นที่โด่งดังมากนักในหมู่สายมู แต่ผมขอรับประกันกับเพื่อนๆได้ว่าที่นี่คงในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ที่อื่นแน่นอนวัดป่าพรหมยาน จ.ฉะเชิงเทราพิกัด : https://goo.gl/maps/HT1ep3gsfQkjQHzh8 ภาพ : JaturongT. อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !