ขอให้เธอเดินทางพานพบสุข สิ่งของที่กองอยู่เราส่งมอบให้ รักจากหัวใจบวกความหวังดี สุขทุกวันคืนชื่นอกชื่นใจ กองบังใหญ่ให้ผู้วายชนม์ หลังจากศพพ้นจากหลังคาบ้าน ส่งให้ดวงวิญญาณใช้ในดินแดนใหม่ สิ่งที่ทุกคนไม่อยากพบเจอ คือ ข่าวร้าย ข่าวร้ายของคนเรามีหลายอย่างให้พบเจอ แต่สิ่งที่ทุกคนทุกครอบครัวในโลกใบนี้ ต้องเผชิญ คือไม่เจ็บไม่ป่วยการจากโลกใบนี้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสิ้นลม ตอนที่ยังอยู่คนเรามีของใช้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม แต่เมื่อตายจากโลกนี้ไป สิ่งเหล่านี้กลับนำไปไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว ชุดที่ใส่ คนอื่นยังต้องเลือกให้ ตนเองนั้นนอนนิ่งไม่ไหวติงกับทุกอย่าง ชีวิตในวาระสุดท้ายของทุกคน เชื่อว่าตัวของตนนั้นรู้และมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง อาจจะมีคำที่กล่าวว่าคนเรานั้นรู้แต่วันเกิด แต่วันตายดับชีวานั้นไม่มีใครรู้ได้ แต่ในบางคนนั้นรู้ว่าตนเองจะเสียชีวิต ก่อนวันเสียชีวิตนั้นอาจจะมีการฝากความ ว่าหากว่าสิ้นลมแล้วให้ทำสิ่งที่ต้องการอะไรบ้าง เช่นเสื้อผ้าที่จะใส่ให้ต้องใส่อะไรให้ และสิ่งของที่อยากได้ คนอยู่จะนำมัดใส่ผ้าขาวแล้ววางไว้ที่ปลายเท้าในโลงให้ บวกกับผ้าห่ม เพื่อไม่ให้ผู้ตายรู้สึกหนาว แต่ในปัจจุบันมีการใช้ โลงเย็นนำโลงศพวางเข้าด้านในแช่ไว้ได้ ทำให้ไม่มีการฉีดยาเพื่อให้ศพไม่เน่า สบายขึ้น คืนก่อนนำไปเผาจะมีการถอดปลั๊กออก เมื่อไหร่ที่ศพมาถึงบ้าน เจ้าของหรือญาติก็จะเปิดฝาโลงเพื่อทำพิธีรดน้ำศพ หรือบางที่อาจจะเปิดมาเพื่ออาบน้ำให้ครั้งสุดท้าย และทาแป้งหวีผมตามธรรมเนียม ถ้าหากเป็นความเชื่อของคนภูไทนั้น เสื้อผ้าที่ใส่ให้ จะต้องใส่กลับด้านให้ ทำตำหนิให้รู้ว่าใช้แล้ว อาจจะนำกรรไกรมาตัดให้ขาด หรือฉีกบ้างแล้วแต่ความเชื่อ ซึ่งหลังจากนำศพลงโลงเรียบร้อยสิ่งที่จะต้องตระเตรียมชุดใหญ่คือ “เครื่องกองบังให้ผู้ตาย” การส่งบุญให้ถึงคนตายมีหลากหลายวิธี ความเชื่อเกิดขึ้นจึงได้เกิดการปฏิบัติตาม นานเข้ากลายเป็นประเพณีและวัฒนธรรมสืบทอดกันทางบุคคล บุคคลหนึ่งถ่ายทอดสู่อีกคน แต่สิ่งสำคัญเหนืออย่างอื่นคือความพร้อม พร้อมที่จะทำ ทรัพย์พร้อม สถานที่พร้อม เวลาเหมาะสมลูกหลานพร้อม ซึ่งบางครอบครัวจะมีการทำบุญร้อยวันบ้าง การแจกข้าว มีหลากหลายรูปแบบซึ่งมีให้เลือกตามกำลังศรัทธา กองบุญ กองบัง หรือกองกฐิน ซึ่งจะทำหลังจากเสียชีวิตแล้ว หรือบางครอบครัว ทำบุญบ้านเสร็จแจกข้าว หาผู้ตายต่อก็ย่อมทำได้เช่นกัน เน้นความพร้อม กองบัง หมายถึงสิ่งของที่คนอยู่นั้นจะหาให้กับผู้ตาย ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่เครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ฟูกที่นอน เสื่อ สาด เสื้อผ้า จะใช้ของใหม่ของที่ยังไม่ผ่านการใช้ ซึ่งในบางคนผู้ที่มีอายุมากหน่อย จะมีการเตรียมไว้ให้ตนเอง เป็นผ้าห่ม หมอนเสื้อผ้า แต่ถ้าหากไม่มีของใหม่ ก็จะต้องหาซื้อเพื่อนำมาบังให้กับผู้ตาย การซื้อคือ ซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ความศรัทธาอาลัยในความดีของคนที่จากไป คนที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาเพื่อที่จะแสดงน้ำใจบ้าง ร่วมบุญบ้าง กินบุญกินทานด้วย คำเหล่านี้เราจะต้องได้ยินอย่างแน่นอนในชีวิตช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต เพราะความตายไม่เลือกเวลา สถานที่ หรืออายุ จากญาติพี่น้องที่มาร่วมงาน ในบรรดาญาติที่สนิทกับผู้ตาย อาจจะเป็นเพื่อนที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังเด็กก็จะนำของใช้มาร่วมทำบุญด้วย คนในครอบครัวรู้จักว่าตอนที่อยู่ผู้ตายชอบอะไรก็จะนำมาให้เพื่อทำกองบังให้กับผู้ตาย นอกจากของใช้จะมีขนม ของแห้งปลากระป๋องมาม่า เสื้อกางเกง มารวมด้วย ของทาน ส่งมอบให้กับผู้ตายเมื่อมาร่วมงาน ใช้คำว่า กินบุญกินทานร่วมกัน คนที่มาร่วมงานต้องการที่จะร่วมทำบุญกับญาติก็จะนำขนมบ้าง หมอน ผงซักผ้า สบู่ ยาสีฟัน นม ตามกำลังศรัทธา และจะต้องมีดอกไม้เทียนคู่ หรืออาจจะมีปัจจัยใส่ถือเป็นการร่วมทำบุญให้กับผู้ตาย ส่วนคนในบ้านก็ทำได้เพียงนำสิ่งของที่ผู้ตายรัก หวงแหนมากตอนอยู่ จะทำได้เพียงนำมาบังให้กับผู้ตาย ตัวอย่างเช่นความฝันในชีวิตของผู้ตายอยากที่จะมีรถสักคันมาขับ แต่ยังไม่ทันที่จะได้รถตัวเองดันมาเสียชีวิตเสียก่อน คนที่อยู่ก็จะซื้อรถให้แล้วใส่ในกองเพื่อบังไปให้ผู้ตาย เหรียญเงินเหรียญทอง เหรียญเงินเหรียญทองทองเหล่านี้ ห่อไว้เพื่อโยนโปรยก่อนที่จะเคลื่อนศพออกจากบ้าน จะนำมาโปรยด้วยข้าวตอก ความเชื่อเรื่องการโปรยข้าวตอกและเหรียญ นั้นหมายว่า ให้ผู้ตายเดินทางอย่างมีความสุข พบทางสว่างให้เดินทางตามทางที่โปรยดอกไม้ให้ เหมือนทางที่โรยด้วยสิ่งสวยงาม นอกจากนั้นยังมีการโรยเงินเหรียญ ซึ่งความเชื่อเรื่องของเงินเหรียญบาทมีความเชื่อหลากหลาย อย่างแรกใช้ในการเดินทาง หรือการซื้อทาง เมื่อถึงสี่แยก หรือทางโค้งต่างๆ ในการนำศพผ่าน จะต้องมีการโยนเหรียญบาทเพื่อเป็นการซื้อทางให้ศพได้ผ่าน เพราะตามทางโค้งหรือสี่แยกจะมีเจ้าของหรือผู้รักษาอยู่ การโยนเหรียญซื้อทางจะทำให้วิญญาณศพผ่านได้ ข้าวตอก ข้าวตอกคือการนำข้าวเปลือกนำมาคั่วใส่ดินทราย ให้ร้อนและแตก เป็นดอกสีขาวสวย ข้าวตอกดอกไม้ โปรยเพื่อนำทางผู้ตายสู่สวรรค์ชั้นฟ้า พบแต่ความสุข การโปรยข้าวตอกและเหรียญ หลักการในการโปรยนั้นจะต้องโปรยไปด้านหน้าของผู้โปรย โยนไปด้านหน้าอย่างเดียงห้ามโปรยมาทางด้านหลังโดยเด็ดขาด ถือเป็นข้อห้าม ความเชื่อว่าห้ามมองมาด้านหลังให้เดินทางไปข้างหน้า ซึ่งเหมือนกันกับการร่วมในขบวนแห่ศพ ซึ่งมีความเชื่อว่าไม่ให้วิ่งตามไปทีหลัง ต้องไปพร้อมกันกับขบวนแห่ศพ ถ้าไม่ทันไม่ต้องวิ่งตามไป เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นคนที่วิ่งตาม ที่ต้องเสียชีวิตต่อจากผู้ตาย (ความเชื่อส่วนบุคคล) การตั้งกองบัง สิ่งเหล่านี้จะเกิดหลังจากการนำศพออกจากบ้านเดินทางสู่เมรุ พระจะทำพิธีเอาบุญบ้าน เรียบร้อยทั้งหมด ญาติคนที่อยู่บ้านก็จะนำเสื่อออกมาปูด้านนอก ในทางที่ศพเคลื่อนออกไป ตรงกลางและต้องเป็นสถานที่ว่าง โปร่งจะทำการปูเสื่อไว้ แล้วนำเครื่องใช้ที่จะให้ผู้ตายนำไปด้วยมากองไว้ เพื่อรอให้พระมาสวดบังสกุลให้ ซึ่งก็มีหมอนผ้าห่มตะกร้า เครื่องหมากพลู วิธีการ เริ่มในการบัง คือ หลังจากที่นำข้าวของมากองไว้แล้ว ญาติก็จะนำใบไม้กิ่งไม้ใหญ่มากองเพื่อเป็นการบังไว้ จากนั้นก็จะกันนั่งรอนิ่งเงียบ เพื่อรอให้พระสงฆ์มาพิจารณา จะต้องมีการเตรียมพระสงฆ์หนึ่งรูปไว้เพื่อรับกองบัง ซึ่งเมื่อชาวบ้านนำกองข้าวของมานำใบไม้มาปิดบังไว้แล้วก็จะแอบดูอยู่ห่างๆ เพื่อรอกรวดน้ำให้ผู้ตาย เตรียมกรวดน้ำให้ผู้ตาย เมื่อนำข้าวของมากอง ทุกคนก็จะต้องถือแก้วและขวดน้ำ เพื่อเตรียมสำหรับการกรวดน้ำให้กับผู้ตาย หลังจากที่พระพิจารณาเรียบร้อย ซึ่งจะหลบอยู่ห่างจากกองบุญ ในการวางสิ่งของนั้น สามารถที่จะวางได้ตามความเหมาะสมเลย แต่ต้องอยู่บนเสื่อ มีจำนวนเท่าไหร่ก็จะวางไว้เท่านั้น และในช่วงนั้นจะไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเพราะต่างเดินทางไปส่งร่างอันไร้วิญญาณของผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ขั้นแรกต้องเดินวนหาก่อน เมื่อพระสงฆ์เดินผ่านมา จะสมมุติว่ามองไม่เห็น เพราะได้นำใบไม้ต้นไม้มาวางปิดไว้ จากนั้นก็จะทำการเดินวนหากลับไปกลับมา พร้อมกับนำมือขึ้นมาทำท่าส่องหา ซึ่งหลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาที ก็จะแสดงท่าทางว่าได้พบ ซึ่งหลังจากพบก็จะเดินหาชื่อและพยายามหาข้อมูลว่าเป็นของใคร เจอแล้ว เตรียมพิจารณา หลังจากที่พระสงฆ์เดินวนหลายรอบก็พบ ซึ่งหลังจากนั้นก็จะทำการพิจารณาและขานชื่อผู้อุทิศบุญให้ ใคร จากนั้นก็จะนำใบไม้ที่บังนั้นออก และหลังจากนั้นก็จะนำมือแตะและรับกองบังนั้นตามความประสงค์ของผู้อุทิศบุญให้ หลังจากที่มีการอุทิศบุญให้สิ่งของเหล่านี้กลายเป็นของทาน ก็จะนำไปไว้ที่วัดต่อไป จะทำให้เห็นสัจธรรมคือไม่มีใครช่วยเราได้ เราจะต้องทำเอง แม้การจากลาก็ไปเพียงคนเดียว แต่ข้าวของเครื่องใช้ให้ไปเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้นานหลายปี ถ้าหากเราเคยอ่านในเรื่องความเชื่อหลังความตายมาก่อน เราจะรู้ได้ว่าชีวิตหลังความตายนั้นหลายร้อยสิบวันเท่ากับวันเดียวในโลกมนุษย์ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย ความเชื่อที่ว่า การทำบุญอะไรก็ตามถ้าหากว่าไม่มีการกรวดน้ำอุทิศให้นั้นเหมือนการทำบุญไม่ครบองค์ อาจจะทำให้บุญไม่ถึงหรือถึงแต่ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งหลังจากที่พิธีเสร็จสิ้น จะมีการอุทิศให้โดยการกรวดน้ำ ซึ่งพระสงฆ์เองจะบอกให้กับญาติว่า ให้เตรียมกรวดน้ำ เมื่อกรวดน้ำเรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จพิธี การให้งดงามเสมอ การอุทิศบุญให้กับผู้ตายก็เช่นกัน แม้ว่าผลจะเป็นอย่างไรนั้นไม่มีใครรู้ได้ ผู้ตายจะได้รับของเหล่านั้นไหม แต่คือสิ่งที่ทำแล้วทำให้คนอยู่สบายใจมีความสุขที่ได้ทำ การทำบุญสร้างกุศล เคยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหล่าเทวดาว่า เทวดานั้นไม่มีโอกาสได้สร้างบุญกุศลให้กับตนเอง มีหลายครั้งที่เทวดาร่วมสาธุกับการทำบุญของมนุษย์ แม้ว่าตนเองจะอยู่ในสุขคติ ดินแดนแห่งความสุขแต่เมื่อไหร่ที่บุญเก่าหมด ก็ต้องกลับลงมาชดใช้กรรมต่อ จึงได้มีคำกล่าวว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นประเสริฐที่สุดแล้ว มีเวลาโอกาสได้สั่งสมบุญ และทำความดี ซึ่งมนุษย์บางคนเองยังไม่รู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง จึงทำให้เกิดความโลภ โกรธ และหลง การเกิดของมนุษย์เป็นสิ่งที่ยาก แต่ยากกว่าการเกิดนั้นคือการดำนงชีวิตของตนให้เป็นกลาง ไม่สร้างกรรมชั่วมากขึ้น ให้สะสมความดี เพราะวัฏจักรของการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีวันสิ้นสุด ยังต้องเกิดตายไปอย่างนี้เป็นหลายร้อยชาติ ความตายจะพรากทุกอย่างไปหมดสิ้น ตายคือสิ้นสุดในโลกนี้ แต่คนที่จากโลกนี้ไปนั้นจะต้องเริ่มเดินทางด้วยตนเองในโลกหน้า นั่นคือแม้ว่าจะตายจากโลกมนุษย์ไปเป็นเพียงการสิ้นสุดการมีชีวิตในโลกนี้เท่านั้น แต่ยังคงต้องเดินทางเพื่อชดใช้กรรมของตนเองอีกยาวไกลไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งสุดท้ายที่คนเรานำไปได้ มีเพียงบุญและกรรมเท่านั้น คนที่จากไปก็หมดกรรมหมดเวร ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องต่อสู้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลาของตนเอง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !