หากพูดถึงสามก๊ก กวนอูคือขุนศึกที่ถูกยกย่องเป็นเทพกระทั่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป แต่ยังมีอีกบุคคลหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้นั่นคือ ฮัวโต๋ฮัวโต๋หรือหมอฮัวโต๋ถือเป็นบุคคลที่ไปมาหาสู่ครบทั้งสามก๊ก ไม่ว่าจะเป็น ง่อก๊กของซุนกวน ซึ่งได้ทำการรักษา จิวท่าย จากการถูกลอบโจมตีจนกระทั่งหายเป็นปกติ และตันเต๋ง จากโรคพยาธิ ซึ่งหมอฮัวโต๋ได้ให้ยากินไว้แต่ไม่หายขาด โดยกำชับตันเต๋งว่าโรคจะกำเริบในอีก 3 ปีให้หลัง ให้กลับมาหาตนอีกครั้งเพื่อรับยาใหม่ หากมิเช่นนั้นจะถึงแก่ชีวิต ซึ่งก็เป็นตามนั้น เมื่อให้หลัง 3 ปีอาการตันเต๋งกำเริบขึ้นแต่ไม่สามารถไปหาฮัวโต๋ได้ จึงเสียชีวิตลงด้วยโรคพยาธิถัดมาคือ จ๊กก๊กของเล่าปี่ จากเหตุการณ์กวนอูถูกลูกศรพิษที่แขน ด้วยชื่อเสียงของหมอฮัวโต๋ในด้านการผ่าตัดและวางยาสลบ จึงได้เชิญหมอฮัวโต๋มาผ่าตัดให้กวนอู ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรก ๆ ในประวัติศาสตร์ที่อ้างอิงว่ามีการผ่าตัดเกิดขึ้นและการใช้ยาชา (รวมถึงยาสลบ) โดยในระหว่างผ่าตัดนี้กวนอูยังสามารถเล่นหมากรุกและดื่มสุราได้อีกด้วย ภายหลังกวนอูจึงได้ยกย่องหมอฮัวโต๋ว่าเป็นหมอเทวดาและก๊กสุดท้ายที่หมอฮัวโต๋เดินทางไปก็คือ วุยก๊กของโจโฉ เมื่อโจโฉมีอาการปวดศีรษะ จึงได้เชิญหมอฮัวโต๋มารักษา แต่ทว่า หมอฮัวโต๋อธิบายว่า ต้องมีการผ่าตัดศีรษะ ซึ่งกลับเป็นเหตุให้โจโฉเชื่อว่า หมอฮัวโต๋ กับกวนอูคบคิดกันลอบสังหารตน จึงจับหมอฮัวโต๋ไปขังคุก และสิ้นชีวิตในคุก โดยมีความเชื่ออีกทางหนึ่งว่า ฮัวโต๋สามารถรักษาอาการปวดศีรษะของโจโฉได้ แต่ไม่หายขาด จำเป็นต้องดูแลกันเป็นระยะ ๆ ซึ่งฮัวโต๋เองก็ไม่ต้องการที่จะประจำที่อยู่กับโจโฉ จึงอ้างว่าภรรยาตนไม่สบายและขอกลับไปดูแลภรรยา จนแล้วจนเล่าฮัวโต๋ก็อ้างเช่นนี้ไปเรื่อย ไม่กลับมาหาโจโฉ กระทั่งโจโฉสั่งให้ทหารลอบไปดูว่าภรรยาฮัวโต๋ป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งพบว่าไม่เป็นความจริง จึงทำให้โจโฉโกรธ และสั่งจับโต๋ฮัวโต๋มาเพื่อประหาร โดยยังมีเรื่องราวต่อมาว่า โจฉอง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกรักของโจโฉ ซึ่งโจโฉหมายมั่นจะให้สืบทอดตำแหน่งต่อไปแต่กลับป่วยหนักเมื่ออายุ 12 ปี ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่หมอฮัวโต๋ยังอยู่ในคุก ทว่าโจโฉกลับใจร้อนประหารหมอฮัวโต๋เสียก่อน หากให้ฮัวโต๋รักษาก็คาดว่าน่าจะหายเป็นแน่แท้ จึงทำให้โจโฉรู้สึกเสียดายมากจากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ทำให้ชาวจีนนับถือหมอฮัวโต๋ดังเซียนองค์หนึ่ง ในทางแต้จิ๋วเรียกฮัวโต๋ว่า ฮั่วท้อเซียงซือ หรือบ้างก็เรียก ฮั่วท้อเซียนซือ โดยหมอยาฮั่วท้อนี้จะมีอานุภาพในด้านการแพทย์ ซึ่งบูชาเพื่อหวังอิทธิฤทธิ์ของท่านในการรักษาโรคต่าง ๆดังนั้นจึงเชื่อกันว่าหากบ้านใดบูชา ฮั่วท้อเซียงซือ แล้ว ถ้ามีผู้ป่วยเรื้อรังก็จะมีอาการที่เบาลง หรือหากต้องเสียชีวิต ก็จะจากไปอย่างสบายไม่ทรมานกับโรค ในส่วนนี้อาจจะดูแปลกสักหน่อย เพราะการบูชาองค์เทพทั่วไปคงหวังให้กลับมาแข็งแรง หรือมีปาฏิหาริย์ แต่การจากไปอย่างสงบนี้ก็เป็นไปตามหลักที่คนจีนเรียกว่า อู่ฝู 五福 (พร 5 ประการ) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคำอวยพรของคนจีนที่นิยมกัน โดยใน 5 ประการนี้ ประกอบด้วย อายุยืน, ร่ำรวย, แข็งแรง, มีศีลธรรม และสุดท้ายคือ จากไปอย่างสงบ เพราะท้ายที่สุดเราทุกคนก็ล้วนต้องจากโลกนี้ไปตามธรรมชาติ หลายโรคที่เกินแก้ไข การจากไปและไม่ทรมานกับมันย่อมเป็นทางเลือกที่อาจจะดีกว่าการอยู่อย่างทรมานหากต้องการไปสักการะตามศาลเจ้าแล้วล่ะก็ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) และ วัดบรมราชากาญนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) ถือเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการบูชาฮั่วท้อเซียงซือ หรือหากต้องการเป็นเครื่องรางก็มีให้เช่าบูชาที่นี่เป็นระยะ ๆ เช่นเดียวกัน และยังมีศาลเจ้าอื่น ๆ อีกมากมายทั่วประเทศที่มีองค์ท่านประทับอยู่ เช่น ศาลเจ้าปุงเถ่ากง เชียงใหม่ เป็นต้น โดยเชื่อกันว่า ฮั่วท้อเซียงซือ เกิดเมื่อเดือน 4 วันที่ 18 ตามปฏิทินจีน เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดนี้ ตามศาลเจ้าที่มี ฮั่วท้อเซียงซือ ก็จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงทั้งหมดนี้ฮั่วท้อเซียงซือจึงเป็นอีกหนึ่งองค์เทพ ที่ขอแนะนำให้กับสายมูทั้งหลายได้เป็นที่สักการะในยามเจ็บไข้ได้ป่วย เพื่อหวังถึงอานุภาพของท่านหรือเป็นกำลังใจให้กับทั้งผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยในยามที่ยากลำบาก ขอบคุณภาพประกอบ จากภาพปก วัดหลงซาน ไต้หวัน (艋舺龍山寺) ภาพโดย 跳跳猴ภาพที่ 1 unsplash - JAFAR AHMEDภาพที่ 2 ผู้เขียนภาพที่ 3 ศูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมภาพที่ 4 งานต้อนรับตรุษจีน 2564 ICONSIAMเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !