ตรุษจีนแต่ละปี คนไทยเชื้อสายจีนและชาวสายมููทั้งหลาย ก็นิยมไปทำพิธีแก้ชงตามศาลเจ้าต่าง ๆ...สำหรับปี 2568 นี้ ตามนักษัตรจีนเป็นปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) เขาถือกันว่าเป็นปีชงเต็ม ๆ สำหรับคนเกิดปีกุน (ปีหมู) นอกจากนี้ก็ยังเป็นปีชงร่วม สำหรับคนเกิดปีมะเส็งเอง คนเกิดปีขาล (ปีเสือ) และคนเกิดปีวอก (ปีลิง)...ปีนี้ ผู้เขียนและครอบครัวมีโอกาสไปไหว้เทพเจ้าและทำพิธีแก้ชงที่ ศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ซึ่งนับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด ทั้งยังเป็นที่เคารพนับถือศรัทธาของผู้คนมากมายทั้งใกล้และไกล...ใครได้ไปถึงตัวเมืองอุดรธานี ไม่ควรพลาดไปสักการะเพื่อสิริมงคลค่ะทุกปี ศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ได้ทำพิธีอย่างยิ่งใหญ่ เพื่ออัญเชิญเทพเจ้า 3 องค์ ได้แก่ ตั่วเหล่าเอี๊ย ไฉ่ซิ่งเอี๊ย และ ไท่ส่วยเอี๊ย ลงประทับที่ศาลเจ้า เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้เข้ากราบไหว้บูชาเป็นสิริมงคลและทำพิธีแก้ชง...สำหรับปีนี้ เขาเปิดให้ผู้คนไปไหว้และแก้ชง ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ระหว่างเวลา 9:00 - 21:00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าคอยให้คำแนะนำดูแลเป็นอย่างดีค่ะ1. เริ่มที่จุดไหว้เทพเจ้า 3 องค์จุดไหว้เทพเจ้า 3 องค์ จัดเป็นแท่นบูชาขนาดใหญ่ มีป้ายคำมงคลแขวนไว้ว่า 照普光神 (อ่านว่า Zhào Pǔ Guāng Shén) แปลว่า "แสงแห่งเทพยดาสาดส่องไปทั่วสกล"...เห็นแค่นี้ก็รู้สึกอุ่นใจที่ได้ไปไหว้ขอพรและขอบารมีให้ปกปักรักษาแล้วค่ะเทพเจ้า 3 องค์ ได้แก่ (1) ตั่วเหล่าเอี๊ย หรือ เจ้าพ่อเสือ (เพราะมีเสือเป็นพาหนะ) มหาเทพผู้ปัดเป่าปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนปราบปีศาจร้ายและหมู่ภัยพาลให้แก่โลก (2) ไฉ่ซิ่งเอี๊ย เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยและโชคลาภ ซึ่งผู้คนมากมายนิยมกราบไหว้ขอพรให้ท่านประทานความมั่งคั่งร่ำรวย ทรัพย์สินและโชคลาภ และ (3) ไท่ส่วยเอี๊ย เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา เป็นผู้พิทักษ์รักษาดวงดาวที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์และเทพเจ้า และสามารถเปลี่ยนดวงชะตาร้ายให้กลายเป็นดีได้2. บูชาชุดไหว้แก้ชงบูชาชุดไหว้แก้ชง ราคาถาดละ 200 บาท...ในถาดประกอบไปด้วย ธูป ส้มมงคล ขนมมงคล ซองอั่งเปา (ซองแดงใส่เงินขวัญถุง) กระดาษหงิ่งเตี๋ย (กระดาษเงินกระดาษทอง 13 แผ่น) และกระดาษแดงสำหรับเขียนชื่อพร้อมข้อมูลของผู้ไหว้แก้ชงค่ะ3. เขียนข้อมูลลงบนกระดาษแดงศาลเจ้าเตรียมปากกาไว้ให้ใช้ มีที่นั่งให้เขียนได้สะดวกสบาย แถมมีน้ำให้ดื่มด้วยค่ะ...ข้อสำคัญคือ (1) ผู้ไหว้แก้ชงต้องจำรายละเอียดวันเกิดที่ถูกต้องของตัวเองให้ได้ (2) ถ้าจำเป็นต้องใช้แว่นสายตาสำหรับเขียนหนังสือ ก็อย่าลืมนำไปด้วย...ทางออกอีกทางหนึ่งสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดเขียนเองก็คือ การให้ลูกหลานเขียนให้ ซึ่งครอบครัวผู้เขียนก็ใช้วิธีนี้ค่ะรายละเอียดที่ต้องเขียนลงในกระดาษแดง เพื่อบอกให้เทพเจ้าท่านได้รับทราบตัวตนของเรา ก็คือ ชื่อ นามสกุล อายุ วัน - เดือน - ปี - เวลาเกิด และที่อยู่...นอกจากนี้ ในกระดาษแดง ก็ยังระบุคำอธิษฐานต่อเทพเจ้าด้วยค่ะ...คำอธิษฐานสำคัญก็คือ ขอบารมีเทพเจ้า คุ้มครองดวงชะตา ปัดเป่าอุปสรรค และบันดาลความสุข - โชคดี - ปลอดภัย ให้แก่ชีวิตค่ะ4. จุดธูป กล่าวคำอธิษฐานเมื่อเขียนข้อมูลลงบนกระดาษแดงเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปวางถาดของไหว้ที่แท่นบูชาหน้าองค์เทพ...จุดธูปทั้ง 9 ดอกที่เขาจัดให้ไว้ในถาดของไหว้ แล้วยืนหน้าแท่นบูชา ตั้งจิตอธิษฐานตามคำอธิษฐานในกระดาษ...ส่วนใหญ่ ถ้ามือใหม่หัดไหว้ จำข้อความไม่ค่อยได้ ก็อ่านตามที่เขาระบุให้ในกระดาษแดง...ถ้าใครต้องพึ่งแว่นอ่านหนังสือ ก็อย่าลืมพกไปด้วยนะคะ หรือถ้าใครไม่ถนัดอ่าน ก็อาจใช้วิธีให้คนอื่นอ่านให้ฟังแล้วพูดตามค่ะ5. ปักธูปไหว้เทพเจ้ากล่าวคำอธิษฐานจบแล้ว ยังวางถาดของไหว้ไว้ที่แท่นบูชา เดินไปปักธูปไหว้เทพเจ้า (องค์ละ 3 ดอก) ตามลำดับที่เขาเขียนป้ายเอาไว้ คือ (1) ตั่วเหล่าเอี๊ย (2) ไฉ่ซิ่งเอี๊ย (3) ไท่ส่วยเอี๊ย...ผู้เขียนชอบมาก ที่ศาลเจ้าเขาเขียนหมายเลขไว้ตัวใหญ่ ทำให้มองเห็นชัดเจนได้แต่ไกล โดยเฉพาะผู้สูงอายุ...และที่ป้ายพระนามเทพเจ้า ก็ยังมีรายละเอียดพลังบารมีของท่าน ช่วยให้ขอพรได้ถูกต้องชัดเจนต่อเทพเจ้าแต่ละองค์ค่ะ6. ใส่กระดาษเขียนชื่อแก้ชงลงในกล่องปักธูปเสร็จแล้ว ก็ใส่กระดาษแดงที่เราเขียนชื่อและข้อมูล ลงไปในกล่องที่เขาจัดไว้ให้...ทางศาลเจ้าจะนำกระดาษเหล่านี้ไปทำพิธีกรรมแก้ชงให้เราต่อไปค่ะ7. ยกของไหว้ถวายหย่อนชื่อเสร็จแล้ว กลับมาตั้งจิตที่หน้าแท่นบูชา แล้วยกของไหว้ขึ้นในอาการน้อมถวาย 3 ครั้ง...เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรมตรงจุดไหว้เทพเจ้านี้ค่ะ8. เก็บของมงคลสิ่งที่เหลือในถาดของไหว้ ที่นอกเหนือจากกระดาษหงิ่งเตี๋ย เขาให้เราเก็บกลับบ้านเป็นมงคล...มีทั้งส้มมงคล ขนมมงคล และซองอั่งเปา ซึ่งเขาก็มีถุงพลาสติกเล็ก ๆ สีแดงให้ใส่ของ ช่วยให้เก็บและหิ้วไปได้สะดวกค่ะ9. ปัดแก้ชงออกจากจุดไหว้เทพเจ้า ไปที่จุดปัดแก้ชง ซึ่งที่ศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ผู้เขียนชอบที่เขาตั้งจุดนี้ตรงหน้าบึงน้ำขนาดใหญ่ (ชื่อ "หนองบัว") ตามแนวคิดความเชื่อ ที่ให้ปัดสิ่งร้ายให้ออกไปกับน้ำค่ะ...ในการปัด เขาให้ยืนหันหน้าไปทางน้ำ ใช้กระดาษหงิ่งเตี๋ยทั้งปึก (ในปึกมี 13 แผ่น ตามจำนวนเดือนของปีมะเส็งปีนี้ ที่มี 13 เดือน) ปัดตั้งแต่เหนือหัวจนจรดเท้า แล้วปัดออกไปจากตัวไปทางน้ำ 13 ครั้ง...ถ้ามือใหม่หัดปัด ก็จะมีเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดค่ะ10. เผากระดาษหงิ่งเตี๋ยเมื่อปัดแก้ชงครบ 13 ครั้งแล้ว นำกระดาษหงิ่งเตี๋ยไปเผา ก็คือใส่ลงไปในเตาเผากระดาษของศาลเจ้า...มาถึงตรงนี้ ก็เป็นอันเสร็จพิธีกรรมไหว้แก้ชงทั้งหมดค่ะการได้ทำพิธีไหว้ไท่ส่วยเอี๊ย เป็นการต้อนรับปีชง และการได้ไหว้แสดงความศรัทธาและขอพรต่อเหล่าเทพเจ้า เป็นการต้อนรับตรุษจีน ให้ความสุขสบายใจและอุ่นใจ...ยิ่งถ้าเราได้ทราบถึงความเมตตาและพลังบารมีของเหล่าเทพเจ้า (ส่วนตัวผู้เขียนมีความศรัทธา เพราะมีประสบการณ์เกี่ยวกับความเมตตาของเจ้าปู่-ย่า และสนใจศึกษาเรื่องราวตำนานการบำเพ็ญบารมีของเทพเจ้าแต่ละองค์ค่ะ) เราก็จะยิ่งเห็นด้วยกับข้อความมงคลที่ว่า "แสงแห่งเทพยดาสาดส่องไปทั่วสกล" ค่ะถ้าหากใครไม่มีโอกาสไหว้แก้ชง ก็ยังมีวิธีการแก้ชงอื่น ๆ ค่ะ...ผู้เขียนได้รับความรู้จากศาลเจ้าต่าง ๆ ว่า คนที่อายุอยู่ในช่วงปีชง ตลอดปีก็สามารถ สวดมนต์เจริญภาวนา อยู่ในคุณธรรมความดี ทำความดีช่วยเหลือทั้งคนและสัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก รวมทั้งทำบุญกับศพไร้ญาติ เช่น บริจาคโลงศพ เป็นการแก้ชงได้เช่นกันค่ะ.มรรษยวรินทร์พิกิด ศาลเจ้าปู่ยา อุดรธานีภาพประกอบทั้งหมด โดย มรรษยวรินทร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !