ต้องบอกก่อนเลยว่าพระราหู เป็นเทพอสูรที่ชาวไทยนิยมไหว้และบูชากันเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่เชื่อว่าการไหว้พระราหูจะทำให้มีโชคลาภ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เกิดความสำเร็จในชีวิต และบางคนก็นิยมไหว้เพื่อแก้เคล็ดปีชง หรือแก้เคราะห์ที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายของราหู แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ลองไปดูกันเลยสิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการไหว้พระราหูการไหว้พระราหูสามารถทำได้ที่วัดหรือสถานที่สำหรับทำพิธีไหว้โดยเฉพาะ แต่สำหรับเราทำที่บ้านเพราะทำมาแล้ว 3 ครั้ง สามารถทำได้ง่ายๆที่บ้านสำหรับคนที่ไม่เวลาไปวัดหรือไม่สะดวกต่อการเดินทาง ต้องเตรียมอะไรบ้างไปดูกันเลย1.ของกินที่เป็นสีดำ จำนวน 8 หรือ 12 อย่าง (ของเราก็จะมี ของคาว เช่น ไข่ต้มสมุนไพร ข้าวไรซ์เบอรี่ เมล็ดแตงโม ของหวาน คุ้กกี้อบกรอบสีดำ เฉาก๋วย ช็อคโกแลต ขนมอบกรอบ ลูกอมกาแฟ เครื่องดื่ม กาแฟ โค้ก ซึ่งของเหล่านี้สามารถหาได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้แล้ว)2.ถาดสำหรับใส่ของไหว้ (สำหรับใส่ของไหว้ทั้งหมด8หรือ12อย่าง) 3.โต๊ะสำหรับไหว้กลางแจ้ง (โต๊ะที่ใช้จะต้องคำนึงถึงขนาดของถาดใส่ของไหว้เราด้วยว่าพอเหมาะกันหรือไม่ เพราะว่าเราต้องใช้วางจนกว่าธูปจะดับ) 4.ธูปสีดำ (ให้จุดตามจำนวนของที่ไหว้ เช่น 8 ดอก หรือ 12 ดอก) 5.ที่ปักธูป (สำหรับใครที่สะดวกปักลงดินก็ได้ แต่สำหรับเราสะดวกต่อการเก็บเลยใช้กระถางต้นไม้ใส่ดินหรือทายแล้วนำมาปัก)ขั้นตอนการไหว้พระราหู1.เตรียมของไหว้สีดำให้ครบตามจำนวน จัดใส่ถาดหรืออะไรก็ได้ให้สามารถอยู่รวมกันในที่เดียว 2.จัดโต๊ะให้พร้อม โดยให้หันหน้าโต๊ะออกไปทางทิศตะวันออก 3.เตรียมธูปจำนวน 8 ดอก หรือ 12 ดอก 4.เวลาสำหรับการไหว้ขึ้นอยู่กับว่าวันที่เราจะไหว้นั้นคือวันอะไร ต้องลองหาดูในเว็บหรือกูรูที่เชื่อถือได้ ยกตัวอย่างเช่น ไหว้วันราหูย้าย 17 ต.ค.2566 ฤกษ์ดีในการไหว้คือ ช่วงค่ำคือ เวลา 20.12 น. ตอน20.11เราก็จุดธูปไว้รอเลย 5.ต้องท่องคาถาหรือบทสวดก่อน ให้ตั้งสติ ตั้งใจและมีสมาธิกับการสวด โดยการสวดจะแบ่งเป็น2ช่วง คือตอนไหว้บูชาราหู การถวายของไหว้ และช่วงสุดท้ายคือการกล่าวลา แล้วนำของที่ถวายมากินต่อได้ ซึ่งบทสวดก็จะมีดังต่อไปนี้เลย บทสวดพระราหู1.คาถาบูชาพระราหู นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิสังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติสัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภพุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติกินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิสังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติสัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภพุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ. 2.พระคาถาสุริยะบัพพากุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะโตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะโทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ 3.พระคาถาจันทบัพพายัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตังมะมะตัง วะติตัง เสกามะมะกาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ 4.บทถวายของไหว้พระราหูนะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผังสักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะสัมปันนัง โภชะ นานังสาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรังอาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทาหิตายะ สุขายะ พระราหูเทวามะหิทธิกา เตปิ อัมเหอะนุรัก ขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะจะฯ 5.บทบูชาพระราหู คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ (12 จบ)(หลังสวดเสร็จแล้วให้กล่าวขอพรต่อดังนี้)“ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) ขอบูชาพระราหูเทวา ด้วยของดำ (8 หรือ 12 อย่าง) ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า โปรดคุ้มครองดวงชะตาของข้าพเจ้าและครอบครัวให้ปราศจากเรื่องทุกข์ ขอให้การงานราบรื่น เจริญก้าวหน้า พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี มีสุขภาพที่แข็งแรง ขอให้ดาวราหูประทานพร โชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และครอบครัวด้วยเทอญ” (ต่อจากนี้ก็สามารถอธิษฐานเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ได้ตามความปรารถนาของเราได้เลย) 6.คำลาของไหว้พระราหูเสสัง มังคะลา ยาจามิ(สวดเมื่อลาของไหว้ตอนธูปใกล้หมด) คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ(สวดก่อนนำของไหว้มารับประทาน)หลังจากลาเสร็จแล้วก็สามารถนำของที่ไหว้ไปรับประทานได้หรือสำหรับใครที่มีของเยอะก็สามารถนำไปแบ่งปันให้แก่ผู้ยากไร้ได้ ถือว่าเป็นการทำบุญอีกต่อหนึ่งให้แก่ผู้ยากไร้จาการไหว้พระราหูนั้นก็เป็นความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละคน ถ้าหากเราทำแล้วไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง หรือเรื่องอื่นๆในชีวิตก็ทำได้ เอาความสบายใจของเราเป็นหลัก และต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เครดิต รูปปกประกอบและภาพประกอบ โดย JJKK89/Canva เรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจ7 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงใน "วัน ราหูย้าย 17 ตุลาคม 2566" คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน