ในช่วงเข้าพรรษาและออกพรรษาของทุกปีในหลายๆ พื้นที่ก็จะมีการทำบุญตามประเพณี รวมทั้งชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะในเขตอำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี ก็มีการจัดงานบุญตามประเพณีงานบุญกลางพรรษา(โบวกระเตาะเพาะ) หรืองานบุญเดือนสิบอีกด้วย ซึ่งก็มีกิจกรรมสำคัญในงานที่แตกต่างจากงานบุญอื่นๆ 3 อย่างด้วยกัน โดยงานบุญจะเริ่มเมื่อวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 10 ไปจนถึงแรม 1 ค่ำเดือน 10 มีการจัดงาน 4 คืน 3 วัน ซึ่งปีนี้ก็ตรงกับวันที่ 8-11 กันยายน 2565 โดยจะมีกิจกรรมสำคัญที่เป็นจุดเด่นของงานคือ 1. การตักบาตรน้ำผึ้งหรือน้ำตาล (โบวนี่จ่อง) 2. การไหว้เรือสำเภา (โบวกะบ่อง) 3. การนำอาหารในตอนเช้ามืดเพื่ออุทิศผู้ล่วงลับ (ชุ่งพลือ) หรือประเพณีชิงเปรตของภาคใต้ โดยมีการกำหนดเวลาไว้อย่างชัดเจน วันแรกของงานตรงกับวันที่ 8 กันยายน ในช่วงเช้าชาวบ้านจะมาช่วยกันพัฒนาบริเวณวัด ผู้หญิงจะดายหญ้า ผู้ชายจะจัดเตรียมสถานที่ทั้งทำเรือสำเภาจากไม้ไผ่และทำแคร่ยกพื้นสำหรับนำอาหารคาวหวานเพื่ออุทิศให้ผู้ล่วงลับ พอถึงช่วงกลางคืน เป็นการเจริญพระพุทธมนต์ที่วัด โดยชาวบ้านจะนำขัน หรือถังใส่น้ำ ปรุงแป้งหอม ใส่กิ่งดอกไม้ไว้พรมเมื่อพิธีเสร็จ โดยจะมีการไหว้พระ อาราธนาศีล ฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ และสวดมนต์ทำวัตรเย็นร่วมกันทั้งพระสงฆ์และชาวบ้าน ก็เสร็จกิจกรรมในค่ำคืนแรกวันที่ 9 กันยายน เป็นวันโกน ชาวบ้านก็จะนำพืชไร่ มาใส่ในท้องเรือ เช่น แตง ฟัก ถั่ว งา พริก เผือก มัน กล้วย ต้นข้าว ต้นอ้อย ฯลฯ รวมทั้งของใช้ในปัจจุบันที่จำเป็นอีกด้วย โดยเรือสำเภามีการประดับด้วยเทียนขี้ผึ้ง ดอกไม้ หมาก โดยเชื่อว่าเรือสำเภาดังกล่าว จะเป็นการบรรทุกทรัพย์ สะสมบุญไว้จนถึงยุคพระศรีอาริย์อีกด้วย ในวันที่ 10 กันยายน วันพระใหญ่ เวลาราว 09.30 น. ก็จะมีการตีเกราะส่งสัญญาณให้มารวมกันที่วัดเพื่อตักบาตรน้ำผึ้ง น้ำตาลที่วัด โดยมีความเชื่อที่มาสมัยพุทธกาลว่า "พ่อค้าคนหนึ่ง จะถวายของให้พระพุทธเจ้า แต่มีเศรษฐีคนหนึ่งซื้อของในตลาดจนเกือบหมด เหลือเพียงน้ำผึ้ง ด้วยจิตศรัทธาจึงซื้อน้ำผึ้งที่เหลือใส่บาตรจนล้น และได้รับพรได้เป็นจักรพรรดิในชาติต่อไป" ชาวพุทธเลยนำเหตุการณ์นี้มาเป็นแนวทางในการทำบุญ และด้วยน้ำผึ้งหายากขึ้นจึงนำน้ำตาลมาใช้แทนอีกส่วนหนึ่ง และมีการถวายเรือสำเภาให้พระสงฆ์หลังจากที่ได้ทำพิธีขอขมาแล้ว เพื่อจะได้เป็นของที่บริสุทธิ์ถวายพระสงฆ์ในลำดับต่อไป แต่เดิมทีจะมีการถวายในเวลากลางคืน แต่เนื่องจากชาวบ้านเกร็งว่าฝนจะตกเลยมีการถวายในเวลากลางวันเลย แต่หลายๆ พื้นที่ก็ถวายในเวลากลางคืนตามปกติ และเช้าวันที่ 11 กันยายน ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ มีพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับตั้งแต่เช้าตรู่ ราวตี 4-5 ก่อนจะสว่าง โดยนำอาหารคาวหวานมาวางบนแคร่ที่ยกพื้นสูงขึ้นมา โดยมีที่มาตามความเชื่อเมื่อพระมาลัยเทวะเถระได้ไปเยือนเมืองนรก แล้วสัตว์นรกไม่มีอาหารกิน จึงวานให้ญาติๆ ทำบุญไปให้ โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา ผู้มาทำบุญก็จะกล่าวชื่อผู้ล่วงลับในตอนกรวดน้ำเมื่อพระสงฆ์ให้พร และพิธีสุดท้ายของงานในตอนเย็นมีการมาขึ้นวัด ถวายของให้พระสงฆ์ กรวดน้ำ รับพร ทำวัตรเย็นร่วมกันทั้งพระสงฆ์และชาวบ้านอีกครั้ง ก็เป็นเสร็จงานบุญกลางพรรษาหรือทำบุญเดือนสิบในแต่ละปีทุกภาพประกอบ โดยผูเขียน7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์