ปัจจุบันคนไทยนิยมไปสักการะท้าวเวสสุวรรณกันเป็นจำนวนมาก สำหรับเรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องของการไปสักการะ "ท้าวกุเวรมหาราช" ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือองค์เดียวกันกับท้าวเวสสุวรรณนั่นเอง เพียงแต่ท้าวกุเวรมหาราชเป็นชื่อที่ทางสายพราหมณ์หรือคนอินเดียใช้เรียกกัน คนไทยนิยมเรียก "ท้าวเวสสุวรรณ" มากกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชื่อเช่น "พระธนบดีศรีธรรมราช" ส่วนคนจีนจะเรียกเป็น "ไฉ่ซิ้งเอี้ย" แต่ไม่ว่าจะเรียกชื่อใดก็หมายถึงเทพองค์เดียวกันนี้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "เทพแห่งความร่ำรวย" วัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองสงขลามาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งชาวสงขลาจะเรียกกันติดปากว่า"วัดกลาง" เป็นที่ประดิษฐานของท้าวกุเวรมหาราชอันเป็นเป้าหมายของฉันในการไปสักการะในครั้งนี้ ฉันไปถึงวัดในช่วงเย็น จอดรถด้านนอกบริเวณกำแพงวัดแล้วจึงเดินเข้าไปในวัด แดดร่มลมตก อากาศกำลังดี จึงเดินทอดน่องชื่นชมทัศนียภาพภายในวัดไปด้วย จากประตูวัดเดินตรงไปตามทางและเลี้ยวซ้ายไปทางหอระฆัง เดินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะเห็นท้าวกุเวรมหาราชองค์สีทองอร่ามอยู่เบื้องหน้า เมื่อเดินเข้าไปใกล้ สังเกตเห็นป้ายเขียนบอกไว้ว่า "ท้าวกุเวรมหาราช ภาคเศรษฐีชุมพล เทพแห่งความร่ำรวย" กล่าวคือ เป็นเจ้าแห่งขุมทรัพย์ โชคลาภ ตลอดจนความมั่งคั่งร่ำรวยทั้งปวง ตามความเชื่อมาแต่โบราณจะถือว่าท้าวกุเวรมหาราชเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ดังนั้นการเป็นโพธิสัตว์ย่อมหมายถึงการที่ท่านย่อมมีจิตเมตตาที่จะช่วยเหลือมวลมนุษย์ให้พบกับความร่ำรวยนั่นเอง เป็นคำบูชาท้าวกุเวรมหาราชที่เห็นจากสถานที่นี้มาจากภาษาทิเบต ทั้งนี้เพราะในพุทธศาสนานิกายวัชรยานของประเทศแถบอินเดียตอนเหนือ เนปาล ไปจนถึงประเทศทิเบตก็ให้การเคารพนับถือท้าวกุเวรมหาราชด้วยเช่นกัน แต่จะเรียกท่านว่า "ท้าวซัมปาล่า" หรือ "ท้าวชัมภล" ซึ่งบางครั้งคนไทยก็ได้เรียกเป็น "ท้าวชุมพล" แม้ว่าท้าวกุเวรมหาราชจะเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ในการมาสักการะเพื่อขอความมั่งคั่งร่ำรวยนั้นไม่ใช่แค่สักแต่จะขอๆกันไป ครั้งหนึ่งฉันเคยได้รับคำแนะนำมาจากผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนานิกายวัชรยานได้บอกไว้ว่า สิ่งสำคัญในการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคือการเชื่อมจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเสียก่อน วิธีการง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ก็คือ การอยู่ในสภาวะนิ่งสงบสักครู่ทั้งกายและใจ จากนั้นจึงตามด้วยการกล่าวคำบูชาท้าวกุเวรมหาราช ดังนี้โอม ซัมปาล่า จาเรนตา เยโซฮา เมื่อกล่าวคำบูชาเรียบร้อยแล้วจึงตั้งจิตเชื่อมกับท้าวกุเวรมหาราช อาจหลับตาใช้จิตนึกเป็นแสงสีทองออกจากองค์ท่าน พร้อมกับเห็นแสงนั้นลงมาที่ตัวเราตั้งแต่กลางศีรษะจรดปลายเท้า ประหนึ่งว่าได้ดึงพลังดีดีจากท่านเข้ามาสู่ตัว นอกจากนี้ในสายวัชรยานยังเชื่อว่าที่บริเวณท้องหรือพุงของท่านเต็มไปด้วยแก้วสารพัดนึกที่จะบันดาลความมั่งคั่งความร่ำรวยเหลือเฟือ และการดึงพลังของท่านมาที่ตัวเราก็เพื่อหล่อหลอมรวมกับกายทิพย์ของตัวเราให้กลายเป็นผู้มีกินมีใช้มั่งคั่งร่ำรวยในที่สุด ทั้งนี้ความร่ำรวยเหลือเฟือของแต่ละคนมีนิยามที่แตกต่างกัน ก็สุดแล้วแต่บุญกรรมที่ทำมา วาสนา และการลงมือทำในปัจจุบัน บางคนการมีกินมีใช้ไม่เคยได้อดนั่นก็ถือว่าเป็นความร่ำรวยของเขาแล้ว อีกประการความร่ำรวยไม่ได้หมายความถึงแต่เงินเท่านั้น บางคนร่ำรวยความรัก ได้รับความรักที่ดีหรือมีแต่มิตรที่ดี อย่างนี้เป็นต้น หากคุณอาศัยอยู่ในจังหวัดสงขลาอยู่แล้ว หรือมีโอกาสได้ไป อ.เมือง จ.สงขลา แนะนำว่าควรหาโอกาสไปไหว้สักการะท้าวกุเวรมหาราชที่วัดมัชฌิมาวาสแห่งนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต เพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานและเพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยในทุก ๆ ด้านให้กับชีวิตกันต่อไป ที่ตั้งวัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร เลขที่ 222 ถ.ไทรบุรี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา 90000 พิกัดแผนที่ คลิกพิกัดวัดมัชฌิมาวาสวรวิหารภาพทั้งหมดโดย : Pintas ( ผู้เขียนเอง ) ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก Pintasเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !