วันนี้ผู้เขียนจะบอกเล่าประสบการณ์ การบวชชีพราหมณ์ของผู้เขียนเอง ที่วัดดอยเทพนิมิต ซึ่งเป็นสายวัดป่า เป็นวัดที่ผู้เขียนมีความชอบเป็นการส่วนตัวที่จะไปปฏิบัติธรรม ขั้นตอนการเตรียมตัว และกฎระเบียบของวัดมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันคะ ภาพโดย : OwlSchool ผู้เขียน การบวชชีพราหมณ์ที่วัดดอยเทพนิมิตไม่ยุ่งยากเลยคะ คือ แค่มีใจที่จะไปปฏิบัติ กระเป๋าใบเดียวก็ไปได้แล้ว ครั้งแรกที่ผู้เขียนไปคือไปบวชชีพราหมณ์ ( บวชไม่ปลงผม ) ครั้งที่ 2 นี่คือบวชปลงผมเลย ไปถึงวัดประมาณ 7 โมงเช้า ก็ได้พบกับแม่ชีอาวุโส ที่ทุกคนเรียกกันว่า "แม่ชีเถา " ซึ่งมีอายุมากแล้ว จากนั้นท่านก็จะถามว่าบวชกี่วัน อันนี้คือเราสามารถเลือกได้เองเลยคะว่าจะบวชกี่วัน ปลงผมหรือไม่บอกท่านได้เลย แล้วท่านจะขอบัตรประชาชนเราไว้ ( วันที่ลาสิกขาค่อยไปรับบัตรประชาชนคืน ) จากนั้น ท่านจะให้ท่องบทสวด ที่ถูกเตรียมไว้แล้วพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการขอบวช ท่านจะบอกว่าต้องท่องบทสวดอะไรบ้าง กราบยังไง นั่งอย่างไร ท่านจะคอยดูเราคะ ว่าผ่านมั้ยเวลาที่จะต้องรับศีล8 จากพระภาพโดย : OwlSchool ผู้เขียน พอผ่านจุดนี้ ก็จะมีแม่ชีหรือแม่พราหมณ์พาเราเดินลงไปในห้องพัก ซึ่งเป็นห้องรวม ที่มีทั้งแม่ชีและแม่พราหมณ์ ห้องพักมี 2 ฝั่ง เลือกอยู่เองได้ตามที่เราชอบ ห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวม พื้นที่กว้างขวาง มีความสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมอย่างมาก ถ้ามาบวชแล้วไม่มีชุดมาเอง สามารถขอยืมชุดจากทางวัดได้คะ ไม่มีค่าเช่าชุด ตอนที่ผู้เขียนมาบวชก็ไม่มีชุดมาด้วยคะ เลยยืมทางวัด เพียงแค่ซักเสื้อคืนทางวัดให้สะอาดเท่านั้น แต่ผู้เขียนอยากจ่ายค่าเช่าชุดนี้ด้วยการ บริจาคค่าน้ำไฟวัด และชำระหนี้สงฆ์คะ จากนั้นผู้เขียนก็ได้รับศีล8 จากพระครู ก่อนทำวัตรเย็น ทุกคนที่มาปฏิบัติก็จะมารวมตัวกันที่ศาลาสวดมนต์เพื่อทำวัตรเย็น วันนั้นมีคนมาบวชพร้อมผู้เขียน 2 คน ตอนรับศีลก็เลยไม่เกร็งเท่าไหร่กิจวัตรประจำวันที่ผู้ปฏิบัติต้องทำในทุก ๆ วันระหว่างที่ปฏิบัติคือ - 03:30 ตื่นนอน - 04:00 ทำวัตรเช้า - 05:00 ช่วยงานวัดตามความถนัด เช่น งานในโรงครัว กวาด ลานวัด หรือจะนั่งทำสมาธิ เดินจงกรมก็ได้ - 06:00 สามารถดื่มกาแฟ และทานขนมได้ - 07:00 ช่วยงานในโรงครัว โรงทาน จัดเตรียมภัตตาหารเพื่อนำถวายพระภิกษุ - 08:00 ใส่บาตร ตรงจุดใส่บาตร จากนั้น ทั้งแม่ชีและแม่พราหมณ์จะได้ร่วมรับประทานอาหาร พร้อมกับพระภิกษุ ซึ่งเวลาที่ฉันเพลจะอยู่ที่ 08:20 - 09:00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นวันที่ญาติโยมมากันแน่นขนัดหรือไม่ เมื่อพระภิกษุสวดมนต์เสร็จ ก็จะเริ่มฉันภัตตาหาร จากนั้นเราจึงจะสามารถทานอาหารได้ โดยสังเกตจากแม่ชีที่อาวุโสที่สุด ซึ่งจะเป็นไปตามลำดับความอาวุโสในการบวชลดหลั่นลงมา ผู้ปฏิบัติต้องให้แม่ชีที่อาวุโสที่สุดเริ่มทานอาหารก่อน แล้วเราจึงจะเริ่มทานได้คะ แนะนำนะคะ ระหว่างที่ตักอาหารนั้น แม่ชี แม่พราหมณ์สามารถเก็บขนมและเครื่องดื่มตุนเอาไว้ได้นะคะ เพราะเราจะทานอีกครั้งหนึ่งคือ ก่อนเที่ยงวัน หลังจากนั้นจะไม่สามารถทานอะไรได้ นอกจากน้ำปานะ ได้แก่ น้ำเปล่า น้ำหวาน แต่น้ำผลไม้ เช่น น้ำสับปะรด น้ำมะเขือเทศ น้ำมะพร้าว น้ำส้ม นม อันนี้ไม่ได้คะ แต่ธัญพืชที่มีข้อยกเว้นให้ทานได้ คือ เมล็ดทานตะวัน หลังพระฉันเพลเสร็จแล้ว ชีพราหมณ์ก็จะช่วยกันทำความสะอาดภายในหอฉัน โดยการกวาดถู บางคนก็ไปช่วยล้างจานในโรงครัว โรงทาน บางคนก็ไปล้างห้องน้ำวัด กิจกรรมไม่มีการบังคับนะคะ ถนัดทำอะไรก็ไปช่วยสิ่งนั้น หลังจากช่วยงานในวัดเสร็จแล้ว สามารถพักผ่อนตามอัธยาศัยได้เลยคะ - 11:30 น. ผู้เขียนก็ขึ้นไปทานอาหารที่เก็บไว้ในโรงครัว หลังจากเที่ยงก็ไปซักผ้า นั่งสมาธิ และก็งีบหลับนิดนึง เพราะตื่นมาตอนเช้ามาก - 15:00 น. ไปกวาดลานวัด เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำ ทำสมาธิภาพโดย : OwlSchool ผู้เขียน - 19:00 น. เตรียมตัวทำวัตรเย็น - 20:00 น. เสร็จจากการทำวัตรเย็น สามารถทำสมาธิ เดินจงกรมได้ หากผู้ปฏิบัติต้องการทำเพิ่มด้วยตัวเอง การขอบวชสามารถทำได้ทั้งวัน ถ้าไปถึงตอนเช้า จะได้รับศีล 8 จากพระหลังจากที่ท่านฉันเพลเสร็จแล้ว ( หากท่านไม่ติดกิจธุระที่ญาติโยมมานิมนต์ ) แต่หากไปช่วงสายถึงบ่าย จะได้รับศีล 8 ตอนทำวัตรเย็นของวันนั้นคะภาพโดย : OwlSchool ผู้เขียน ถือศีล5 ว่ายากแล้ว ถือศีล8 ยากยิ่งกว่า แต่ผู้เขียนเชื่อนะคะว่าทุกคนสามารถทำได้ อย่างน้อยก็สักครั้งหนึ่งในชีวิต หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านนะคะ แหล่งข้อมูล : OwlSchool เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !