สรงน้ำพระตามความเชื่อคนโบราณ สามประการแสดงความเคารพให้ครบถ้วน สรงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้วน และเริ่มต้นสิ่งมงคลในปีใหม่ไทย สรงน้ำพระ สิ่งที่ชาวไทยนิยมทำในวันสงกรานต์ สรงน้ำพระพุทธรูปที่วัด สงฆ์พระสงฆ์ ซึ่งหนึ่งปีจะนำลงมาหนึ่งครั้ง ตลอดทั้งปีนั้นเรากราบไหว้มาตลอด จึงนำลงมาสรงน้ำพรหมน้ำหอม ทำความสะอาด เสร็จแล้วก็จะนำเข้าไปเก็บไว้ที่เดิม สรงที่สองที่ลืมไม่ได้คือ สรงน้ำพระในบ้าน ผู้มีพระคุณ พ่อแม่ที่เปรียบเสมือนพระอรหันต์ในใจของลูกทั้งหมด ผู้มีพระคุณไม่ว่าจะเป็นตายาย ลุงป้า น้า อา ซึ่งปีใหม่ไทย หรือวันสงกรานต์ก็จะหยุดงานหลายวันกลับบ้านมาหาญาติพี่น้อง เป็นโอกาศดีที่จะพบปะกัน สิ่งที่ใช้ในการสรงน้ำ การเตรียมตัวสำหรับตักสรงน้ำ การสรงน้ำจะต้องมีขันเล็กๆ และถังน้ำที่ไม่ใหญ่จนเกินไป สำหรับตักน้ำสรงน้ำพระ สรงแต่พองามไม่ราดเยอะจนเกินไป มือข้างหนึ่งจับถังน้ำหอมที่ฝนเครื่องหอมแป้งใส่ โรยด้วยกลีบดอกไม้ ตักรด การวางนิยมวางพระพุทธรูปเรียงกันตามขนาด หรือบางทีจะตามความเลื่อมใส มาก่อนมาหลัง กลีบดอกไม้ ใส่ในน้ำหอม กลีบของดอกมะลิและกลีบดอกคูนให้ความหอม มะลิซ้อน มะลิลา ดอกไม้สีขาวและดอกไม้สีเหลืองนิยมนำมาใส่ในขันน้ำหอมสรงน้ำพระ สามารถที่จะเตรียมของใครของเราไปเลย ในการสรงน้ำพระ ผู้ที่สรงจะเดินเรียงแถวกัน บริเวณพระก็จะมีดอกไม้หอมหลายอย่าง มีดอกดาวเรือง ดอกคูณ ดอกกุหลาบ หรือดอกไม้ที่ชื่อเป็นสิริมงคล อย่างดอกคูณ ค้ำคูณ ดอกดาวเรือง เจริญรุ่งเรือง ถ้าหากไม่มีขันเล็กๆ สามารถนำจอกน้ำ ไม่ว่าจะพลาสติกหรืออะไรได้หมด แก้วใบเล็กได้หมด ขอแค่เพียงพอกับการตักน้ำสรงพระแล้วไม่เกะกะ หรือถ้าหากว่าไม่ได้จริงๆ ให้นำดอกไม้ พวงดอกไม้นำมาจุ่มน้ำแล้วสะบัดใส่พระพุทธรูป ในการสรงจะนำพระพุทธรูป ที่เคารพกราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียน ในสำนักงาน ในบริษัท ในบ้าน ลงมาตั้งเรียงกันตาลำดับเรียงกันเป็นแถวในโต๊ะที่จัดเตรียม มีถาดรองน้ำเมื่อสรงแล้ว ขั้นตอนในการเตรียมสรงน้ำพระ ในขั้นตอนแรกนำพระลงมาจากหิ้ง นำผ้าสะอาดที่ยังไม่ใช้ เช็ดให้สะอาด ถ้าเป็นพระที่มีกรอบให้นำฟองน้ำหมาดๆ กล่องพระเครื่องทำความสะอาด การใช้ ดอกคูน ดอกคูนเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงเดือนเมษายนแม้จะไม่ค่อยมีกลิ่นหอม คนก็ยมนำมาใช้ในการสรงน้ำพระ ด้วยสีเหลืองอร่ามทำให้มองแล้วสว่างไสว กล่องพระเครื่องควรเก็บไว้ให้เรียบร้อย ถ้าหากอยู่ในกล่องที่ปิดสนิท แกะแล้วทำให้เสียหาย ทำความสะอาดแล้วก็อัญเชิญมาตั้งไว้ที่โต๊ะได้เลย และนำดอกไม้หรือกลีบดอกไม้โรยใกล้ๆรูปองค์พระเพื่อเพิ่มความหอม หลังจากนั้นเตรียมดอกไม้ เครื่องอบ น้ำหอม ขันใส่น้ำ เมื่อนำพระออกมาแล้ว ให้ทำความสะอาดเช็ดโต๊ะหมู่บูชาด้วยให้สะอาดเตรียมหลังจากสรงเสร็จนำกลับมาวางไว้ได้เลย เตรียมดอกไม้โรยใส่ขันดอกไม้ แล้วสรงน้ำพระทั้งครอบครัว การขอขมาในส่วนที่ได้เคลื่อนย้าย มีวิธีการขอขมาเพื่อไม่ให้เกิดโรคภัยเริ่มต้นด้วยการ ตั้ง นะ โมสามจบ และตามด้วยการกล่าวตำขอขมา ว่า ระตะนะตะเย ปะทาเทนะ ทะวาระตะเยเทนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต ซึ่งแปลว่า กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 5 ที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งในพระรัตนตรัย ด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ลับหลังก็ดี ขอให้พระพุทธเจ้าได้โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด หลังจากนั้นก็อัญเชิญไปตั้งในที่ที่เตรียมไว้สำหรับที่ได้เตรียมไว้ ขั้นต่อไปคือการเตรียมน้ำสำหรับการสรงน้ำพระ ให้ใช้น้ำสะอาดนำมาใส่เครื่องปรุงหอม เพิ่มความหอมมีสมุนไพร ขมิ้น ขมิ้นนำมาฝนโดยใช้เครื่องมือฝนหรือหินเพื่อให้กลิ่นและน้ำออกจากนั้นนำไปจุ่มในน้ำสะอาดที่เตรียมสรงพระ จะเพิ่มความสดชื่นและความเย็น แป้ง แป้งฝุ่นแป้งหอม ได้ทุกประเภทตามที่เรามี แป้งแคร์ แป้งยอมทาตัวนำมาโรยใส่ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม น้ำอบไทย น้ำอบไทยนำมาหยดใส่ เพื่อเพิ่มความหอม กลีบดอกไม้ กลีบดอกไม้เพิ่มความสดชื่น ส่วนมากจะใช้ กลีบของดอกมะลิ ดอกคูน เริ่มการสรงน้ำ คำกล่าวในการสรงน้ำ ตั้ง นะโม 3 จบ และอธิษฐานตอนสระน้ำว่า อิมินา สัญจเนเนวะ โรโค โสโก อุปัทโว นิพพันตุ สัพพโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง คำแปลของบทภาษาบาลีนี่คือ เดชะ ข้าสรงน้ำ พระชุ่มฉ่ำตลอดกาล ทุกข์สุขโรคภัยพาล อันตรธานเป็นสุขเทอญ การท่องบทสวดนั้นบางพื้นที่จะพากล่าวคำแปล แต่ถัาเป็นในวัดจะพาสวดบาลี ซึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งหรือกล่าวทั้งสองได้เช่นกัน การกล่าวหรือท่องบทสวดเหล่านี้เชื่อว่าเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับบุคคลที่กล่าวบางคนเชื่อว่าจะทำให้ทำมาค้าขายดี ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง หลังจากที่เรากล่าวคำจบแล้วจึงตักน้ำรดลงไปในพระพุทธรูปด้วยความเคารพต่อไป การสระน้ำพระเราจะต้องสรงด้วยจิตใจที่เบาสบายบริสุทธิ์และกล่าวคำด้วยเสียงอันอ่อนหวานไพเราะ เพราะการสรงน้ำถือเป็นการล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากกาย ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากตัว ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็สามารถที่จะกล่าวคำก่อนสรงน้ำพระได้ ถ้าหากว่าไม่จำหรือท่องบทสวดไม่ได้ ก็ให้ระลึกนึกถึงความดี ความสุข และสิ่งที่เราปรารถนา ค่อยๆ ราดน้ำลงไปจากศรีษะ หรือจากหัวไหล่ได้ทั้งหมด หลังจากนั้นก็จะเป็นการขอพร ขอให้ครอบครัวหรือคนใกล้ชิด การสรงน้ำพระจะกระทำเพียงปีละหนึ่งครั้ง เราไหว้พระมาตลอดปีอาจจะไปกระทำล่วงเกิน ก็ถือเป็นการขอขมาโทษที่ได้ล่วงเกิน เพื่อความร่มเย็นหรือก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จึงถือเป็นสิ่งที่ควรทำและปฏิบัติสืบต่อกันมา ในขณะที่เราสรงน้ำพระมองพระพุทธรูปจะมีความสุข และหลังจากสรงน้ำพระ ก็กราบพระขอพรให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !