โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมือง ต่างงัดนโยบายมาสู้กัน หวังกวาดที่นั่งส.ส.ในสภาให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะนโยบายครองใจ ”คนรากหญ้า” แม้มีบางพรรคปฏิเสธไม่ใช่ประชานิยมก็ตาม และยังมองไปไกลถึงในอนาคตที่สังคมไทย จะเต็มไปด้วยสังคมผู้สูงอายุ ต้องกินอยู่ใช้ชีวิต รวมถึงต้องมีค่ารักษาพยาบาลดูแลตัวเอง หากขาดเงินทอง คงอยู่อย่างยากลำบาก
อีกหนึ่งนโยบายที่น่าสนใจเมื่อพรรคเพื่อไทย ปล่อยหมัดเด็ด เปิดแคมเปญสร้างความฮือฮา ”หวยบำเหน็จ” น่าจะตรงจุดตรงใจคอหวยไม่น้อย เพราะเงินทองที่หมดไปกับหวยตลอดชีวิต จะได้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยหลังอายุ 60 ปี ไม่แตกต่างจากเงินบำเหน็จ หรือจะเป็นภาค 2 สานต่อจาก ”หวยบนดิน” ของพรรคไทยรักไทย เจ้าต้นตำรับ สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และขณะนี้หนีคดีไปอยู่แดนไกล
“หวยบนดิน” จำหน่ายงวดแรกวันที่ 16 ส.ค. ปี 2546 ในรูปแบบของสลากเลขท้ายแบบ 2 ตัว หรือ 3 ตัว เพิ่มเติมจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการซื้อขายแบบง่ายๆ ชอบเลขใดก็ให้แผงค้าเขียนบนสลาก มีตั้งแต่ราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท โดยเงินรางวัลเลขท้าย 2 ตัว อยู่ที่ 65 บาท เลขท้าย 3 ตัวตรง อยู่ที่ 500 บาท และ 3 ตัวโต๊ด อยู่ที่ 100 บาท พร้อมรางวัลแจ็กพ็อตล่อใจคอหวย ได้ลุ้นเงินรางวัล 20 ล้าน 30 ล้าน หรือบางงวดสูงถึง 90 ล้าน
นอกจากนี้ยังเป็นการกวาดล้างเจ้ามือหวยใต้ดิน และได้ล้มหายตายจากไปชั่วขณะ ส่วนรายได้จาก ”หวยบนดิน” มีมหาศาล นำไปเพื่อพัฒนาสนับสนุนการศึกษา การแพทย์ ศาสนา สังคม และสาธารณประโยชน์อื่นๆ โดยเฉพาะในโครงการหนึ่งทุนหนึ่งอำเภอ (ODOS) กระทั่งในที่สุดเกิดการรัฐประหาร ”หวยบนดิน” ก็ต้องจบอวสาน รวมการออกรางวัลทั้งสิ้น 80 งวด โดยตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ปี 2546 จนถึง 16 พ.ย. ปี 2549 มีรายได้เข้ารัฐ 135,000 ล้านบาท
เนื่องเพราะด้วย ”หวยบนดิน” ขัดต่อ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ทางรัฐบาลขิงแก่ ”พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” ได้สั่งยกเลิก และมีช่องว่างสุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตในการเบิกจ่าย ได้นำไปสู่การฟ้องร้องในเวลาต่อมา กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาว่า การออกหวยบนดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ.2491 มาตรา 4 และมาตรา 13 ให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 มาตรา 23 และมาตรา 27 แก่ ครม.รัฐบาล ”ทักษิณ” รวมถึงคณะกรรมการสลากฯ และผู้เกี่ยวข้อง ในสมัยนั้น รวม 47 คน และเมื่อปี 2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ฟื้นคดีทุจริตหวยบนดิน และได้ออกหมายจับนายทักษิณอีก 1 หมาย
จนมาถึงการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ 24 มี.ค. 2562 พรรคเพื่อไทย เหมือนจะปัดฝุ่นขึ้นมาอีก จากต้นตำรับ ยี่ห้อ ”ทักษิณ” โดยชูนโยบายกระชากใจคอหวยในรูปแบบของ ”หวยบำเหน็จ” หรือสลากการออมแห่งชาติ ให้คนที่ซื้อหวยได้เงินคืน จากการซื้อหวยทั้งหมดมาตลอดชีวิต เหมือนเป็นการออมในกองทุนการออมแห่งชาติ ในราคาใบละ 50 บาท ทั้งยังได้ลุ้นเงินรางวัลเดือนละครั้ง และเมื่ออายุครบ 60 ปี จะได้เงินก้อนใหญ่พร้อมดอกเบี้ยและปันผล เหมือนเป็นเงินบำเหน็จ และหากอายุมากกว่า 60 ปี เมื่อเสียชีวิต ยังเป็นเงินมรดกให้กับลูกหลานได้ด้วย
คงต้องติดตาม!! เพราะต้องดูผลในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ”หวยบำเหน็จ” จะได้เกิดหรือไม่? หาก ”เพื่อไทย” กวาดคะแนน ส.ส. ได้ตามเป้า เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คงต้องต่อสู้อย่างหนักกับฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ.
