อีกหนึ่งวันไหว้สำคัญที่กำลังจะมาถึง คือ วันไหว้ง่วงเซียวโจ่ย หรือ หง่วงเซียวโจ่ย ถือเป็นวันไหว้สำคัญหลังตรุษจีน ที่ชาวจีนจะไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทานขนมบัวลอย ขนมผักกาด พร้อมกับประดับโคมไฟกันอย่างสวยงาม จนมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เทศกาลโคมไฟ และยังเรียกว่า วันไหว้เทศกาลชาวนา ด้วยเพราะตรงกับวันที่ชาวนาจะเริ่มทำนากันนั่นเองค่ะ รายละเอียดของวันนี้จะเป็นอย่างไร ควรไหว้อะไรให้เฮงๆ มาติดตามกันนะคะ
วันไหว้ง่วงเซียวโจ่ย วันตรุษจีนเล็ก หรือเทศกาลโคมไฟ วันขอพรศักดิ์สิทธิ์ของลูกหลานชาวจีน
วันไหว้ง่วงเซียวโจ่ย หรือ หง่วงเซียวโจ่ย คือคืนที่พระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกในรอบปีหลังผ่านพ้นตรุษจีนมาแล้ว ตรงกับวันที่ 15 เดือน 1 ในปฏิทินจันทรคติ หรือ 15 วันหลังตรุษจีนนั่นเอง ซึ่งมีตำนานความเชื่อต่างๆ กันไปดังนี้ค่ะ
ตำนาน วันไหว้ง่วงเซียวโจ่ย มีที่มาอย่างไร
- ตำนานที่ 1 ในยุคราชวงศ์ฮั่น มีตำนานเล่าว่าเทพสวรรค์หรือเทียนตี้ จะลงมาจากสวรรค์เพื่อลงโทษมนุษย์โดยการเผาเมือง หากแขวนโคมไฟเป็นสัญลักษณ์ไว้หน้าบ้านจะรอดพ้นจากการลงโทษ จนกลายเป็นเทศกาลโคมไฟ (灯节) ดังเช่นในปัจจุบัน
- ตำนานที่ 2 เชื่อกันว่า วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 1 เป็นฤกษ์ดีหรือวันศักดิ์สิทธิ์ในการขอพรจากฟ้า จึงมีการไหว้บูชาเพื่อขอพรจากเหล่าเทพบนสรวงสวรรค์
- ตำนานที่ 3 ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนในอดีต เชื่อกันว่าวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 เป็นวันจุดโคมไฟบูชาเทพเจ้า
- ตำนานที่ 4 ฮั่นหวู่ตี้ฮ่องเต้ (พ.ศ. 405 – 458) ทรงริเริ่มให้ปั้นขนมบัวลอยต้มน้ำตาลกินฉลองเทศกาลง่วงเซียวนี้ แล้วต่อมาก็เริ่มมีการประดิษฐ์โคมไฟแบบสวยๆ พิสดาร เกิดมีการประชันแข่งขันประกวดโคมไฟว่าใครจะทำได้สวยงามกว่ากัน จนถึงสมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ. 1160 – 1540) เทศกาลโคมไฟถูกขยายวันออกเป็น 3 วัน เพื่อให้ชาวบ้านได้ฉลองกันให้จุใจ ครั้นถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1403 – 1822) ขยายเวลาเป็น 5 วัน 5 คืน เมื่อถึงสมัยราชวงศ์เหม็ง (พ.ศ. 1911 – 2189) และราชวงศ์เช็ง (พ.ศ. 2179 – 2454) เทศกาลโคมไฟก็ถูกนับเนื่องให้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลตรุษจีน
วันไหว้ง่วงเซียวโจ่ย ไหว้อะไรบ้าง
ในวันนี้จะไหว้คล้ายกับช่วงตรุษจีน ซึ่งจะมีตีก้วย ฮวกก้วย และไช้เถ่าก้วย แบบเดียวกับตรุษจีนเช่น จนบางคนก็เรียกวันนี้ว่า วันตรุษจีนเล็ก (คลิกดูเพิ่มเติม วันตรุษจีน 2566 มี วิธีไหว้ตรุษจีนอย่างไร ไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยเวลาไหน ใช้ธูปกี่ดอก มีคำตอบครบ!) แค่ไม่มีการไหว้รับไฉ่ซิงเอี๊ยเท่านั้นเอง
ซึ่งขนมที่ไหวมักจะเป็นขนมทรงกลม เช่น บัวลอย เพราะสื่อถึงความกลมเกลียวปรองดรอง และมีความหวานที่สื่อถึงความรื่มรมย์สดใส และเที่ยวชมโคมไฟสวยๆ ที่ประดับตกแต่งจนสว่างไสวไปทั่วทั้งเมือง
สำหรับชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ขนมผักกาด ที่สื่อถึงความเจริญก้าวหน้า รุ่งโรจน์ และ สิงโตคู่ หรือเจดีย์คู่ ที่ทำจากน้ำตาล โดยจะนำมาตั้งไว้ที่ ตี่จู้เอี๊ย ซึ่งเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความโชคดี ทำสิ่งใดก็ราบรื่น สมหวัง เจริญรุ่งเรือง หากขอพรสิ่งใดไว้ก็จะสำเร็จอย่างรวดเร็ว ซึ่งแต่ละบ้านก็กำหนดระยะเวลาในการตั้งไหว้ต่างกันไป เช่น อาจจะลาในปีถัดไป หรือ วันพระถัดไป เป็นต้น เมื่อลาสิงโตน้ำตาล หรือเจดีย์น้ำตาลแล้ว ก็จะนำมาทุบเป็นชิ้นเล็กๆ เก็บใส่โหลไว้ทานเป็นสิริมงคล หรือจะนำไปเคี่ยวน้ำเชื่อมปรุงอาหารก็ได้เช่นกัน
เมื่อเสร็จสิ้นการไหว้ง่วงเซียวโจ่ยแล้ว ก็ถือว่าสิ้นสุดเฉลิมฉลองตรุษจีน และจะเริ่มต้นสะเดาะเคราะห์หรือ แก้ชง หลังวันไหว้ง่วงเซียวโจ่ยเป็นต้นไป เพราะถือกันว่าช่วง 15 วันหลังตรุษจีนยังอยู่ในช่วงเฉลิมฉลอง เป็นมงคลยังไม่มีเคราะห์ร้ายแต่อย่างใดนั่นเอง (คลิกดู ปีชง 2566 ปีเถาะ พร้อมวิธีแก้ชง ปีอะไรชงบ้าง ชงกี่เปอร์เซ็นต์ แก้ชงที่ไหน ช่วยเสริมดวงให้แคล้วคลาด)
ประเพณีการวันไหว้ง่วงเซียวโจ่ยอาจจะเลือนหายไปบ้างสำหรับในบ้านเรา แต่ก็ยังมีชาวไทยเชื้อสายจีนอีกไม่น้อยที่ยังคงไหว้อยู่ ซึ่งก็ถือเป็นอีกการไหว้ที่มีความหมายมงคล และชวนให้รื่นเริงใจสำหรับทุกคนในครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว ใครที่ขอพรแล้วอยากให้สมหวังในเร็ววัน หากได้ไหว้ในวันนี้แล้วพรของคุณอาจสมหวังเร็วขึ้นก็เป็นได้ค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
|
| |||
|
|
