รีเซต

หรือมาให้โชค ตัวนิ่มคลานเข้าบ้าน ทำคุณปู่เชียงใหม่วัย 84 ปีตกใจ

  • 24 กุมภาพันธ์ 2562
  • 945

คุณปู่วัย 84 ปีที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ถึงกับสะดุ้งเจอตัวนิ่มขนาดใหญ่กว่า 7 กก.คลานเข้าบ้าน คาดหลุดมาจากบ้านใครสักคนที่คนเลี้ยง ด้านชาวบ้านแนะส่งสวนสัตว์เชียงใหม่ดูแล เชื่ออาจจะมาให้โชค...

เมื่อตอนเช้ามืด เวลา 06.10 น. วันที่ 24 ก.พ.2562 ขณะที่ "ปู่แก้วคง" นายแก้ว บุญมา อายุ 84 ปี บ้านเลขที่ 72 บ้านกู่แดง หมู่ 6 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้เดินออกมาหน้าบ้านพบสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง ไม่ทราบว่าตัวอะไร มีเกล็ดทั่วตัวเดินมาที่หน้าบ้าน เพราะไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เช่นนี้มาก่อนในพื้นที่แห่งนี้มาก่อน เกรงจะเกิดอันตรายกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ จึงใช้ถังซักผ้าขนาดใหญ่ครอบตัวมันไว้ และแจ้งให้ชาวบ้านมาดูกันกัน แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน ต่อมาทางผู้สื่อข่าวจึงไปดูด้วยพบว่าสัตว์ประหลาดดังกล่าวเป็นตัวนิ่ม หรือชาวเหนือล้านนาเรียกว่า "ตัวลิ่น" นอนขดตัวกลม นำมาชั่งมีน้ำหนัก 7 กิโลกรัม ถือว่าเป็นตัวนิ่มที่มีขนาดใหญ่

สำหรับตัวนิ่มที่เดินเข้าบ้าน "ปู่แก้วคง" ครั้งนี้อาจหนีตายหลุดมาจากบ้านของใครคนหนึ่งที่ซื้อมาเลี้ยง หรือจะนำมาฆ่าชำแหละปรุงอาหารกิน ตามความเชื่อว่าเนื้อตัวนิ่มเป็นยาอายุวัฒนะก็ได้ และตัวนิ่มก็ไม่ใช่สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในพื้นที่อำเภอสารภีแน่ เนื่องจากเป็นอำเภอที่ไม่มีป่าหรือภูเขา นอกกจากจะเป็นสวนลำไยเท่านั้น ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของสัตว์ประเภทนี้ ชาวบ้านจึงลงความเห็นว่าควรจะนำตัวนิ่มไปมอบให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่ อย่างไรก็ตามเลขที่บ้าน 72 ที่ตัวนิ่มเข้ามา และอายุของนายแก้ว บุญมา อายุ 84 ปี อาจนำโชคมาให้ชาวบ้านสารภีได้

สำหรับตัวนิ่มนั้นไม่เพียงแต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียว ที่มีเกล็ดปกคลุมทั้งตัว แต่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกลักลอบจับมาค้าขายกันมากที่สุดในโลก กินมดและปลวกเป็นอาหารกว่า 7 ล้านตัวต่อปี โดยใช้ลิ้นที่ยาวเกือบจะเท่ากับลำตัวของมัน และเนื่องจากมันไม่มีฟัน จึงมักจะกินก้อนหินเข้าไปด้วย เพื่อใช้ช่วยบดย่อยอาหารในกระเพาะ ตัวนิ่มจะม้วนเป็นก้อนกลมเมื่อเจอกับสัตว์ผู้ล่าหรือเมื่อมีภัยมา เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ถึงกระนั้นยังมีการลักลอบจับตัวนิ่มจากป่ามาส่งขายในจีนและเวียดนามปีละกว่าหนึ่งแสนตัว โดยมีความนิยมบริโภคเนื้อและยังนำเกล็ดมาทำเป็นยาด้วย ปัจจุบันตัวนิ่มเริ่มหมดไปจากป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว.