ราหู คือหนึ่งในเทพเจ้าที่หลายคนให้ความเคารพบูชา และให้ความยำเกรง โดยเฉพาะช่วง ราหูย้าย เนื่องจากไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านต่างๆ นั้นมักเกี่ยวเนื่องกับราหูอยู่เสมอ แต่แท้จริงแล้ว เทพราหูนั้นเป็นอย่างไร ตำนานที่มาที่ไป และการบูชานั้นควรทำแบบไหนในครั้งนี้ อ.ปราณเวท โหราพยากรณ์ จะมาถ่ายทอดให้ได้ทราบกันค่ะ
ราหู เทพเจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลง-ภัยพิบัติ
เมื่อใดที่เกิดปัญหาความวุ่นวาย การเปลี่ยนแปลง หรือภัยพิบัติ วิบากกรรมต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับ ประเทศ หรือ ตัวบุคคลในทางโหราศาสตร์ ดาวราหู ก็มักจะถูกพาดพิง อ้างอิงถึงเสมอ ว่าเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ความวุ่นวาย อุปสรรค โรคภัย หรือ ภัยพิบัตินั้นๆ ทั้งนี้เพราะดาวดวงนี้ เป็นดาวบาปเคราะห์ใหญ่ ที่ให้โทษรุนแรง (จริงๆ แล้วในทางโหราศาสตร์ ราหู ไม่ใช่ดาว แต่เป็นจุดคราส จุดตัดระหว่าง ระวิมรรคกับจันทรมรรค)
ตามตำนานเทวดานพเคราะห์ คัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระราหู เป็นเทวดาลำดับที่ 8 เกิดจากการที่ พระอิศวร ทรงนำหัวผีโขมด 12 หัว มาป่นลงเข้าด้วยกัน แล้วประพรม ด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิด เป็นพระราหู ขึ้นมา สีกายเป็นทองสัมฤทธิ์ วิมานสีนิล ทรงครุฑเป็นพาหนะ
ส่วนสาเหตุที่ พระราหู มีครึ่งตัวนั้น ก็มีเรื่องเล่าว่า ในกาลครั้งหนึ่ง พระนารายณ์ ได้ทรงอวตารเป็นเต่า คือ ปางกูรมาวตาร เหล่าเทวดาและอสูร ร่วมกันทำพิธี กวนเกษียรสมุทร เพื่อทำน้ำอมฤต ซึ่งถ้าผู้ใดได้ดื่มกิน ก็จะเป็นอมตะ เมื่อทำพิธีเสร็จสิ้นแล้ว เหล่าเทวดา เกรงว่าถ้าเหล่าอสูร ได้ดื่มกินน้ำอมฤตแล้ว ก็อาจจะเป็นภัยในภายภาคหน้าได้ จึงใช้อุบาย ล่อหลอก มอมเมา เหล่าอสูรด้วย สุรา นารี เพื่อให้เหล่าเทวดาได้ดื่มกินน้ำอมฤตก่อน พระราหู ซึ่งเป็นอสูรนั้นได้ล่วงรู้แผนการ จึงแปลงกายเป็นเทวดา ปะปนเข้าไปเพื่อจะดื่มน้ำอมฤต
พระอาทิตย์ และพระจันทร์ เห็นเข้าจึง ไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงกริ้วจึงขว้างจักรถูกกาย พระราหู ขาดเป็นสองท่อน แต่ด้วยอานุภาพของน้ำอมฤต จึงทำให้พระราหู ไม่ตาย ท่อนหัวไปอยู่ในอากาศ เป็น พระราหู คอยจับกิน (อม) พระอาทิตย์ พระจันทร์ เพื่อแก้แค้นที่เทพทั้งสองนำความไปฟ้องพระนารายณ์ ส่วนท่อนหาง เป็น พระเกตุ ลอยอยู่ในอากาศเหมือนกัน และถือว่า เป็นเทวดานพเคราะห์ ลำดับที่ 9
ที่กล่าวมานี้เฉพาะ ตำนานเทวดานพเคราะห์ เท่านั้น ซึ่งถ้าให้เขียนเรื่องราวความเป็นมา ในตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวกับ พระราหู กันจริงๆ ก็คงต้องใช้พื้นที่อีกหลายหน้ากระดาษ จึงต้องขอยุติแค่นี้ก่อน
สำหรับทางวิชาโหราศาสตร์ พระราหู หรือ ดาวราหู นั้นตามหลัก ที่นำมาพยากรณ์ มีความหมายต่างๆ ดังนี้
- ผู้ที่เกิด วันพุธตอนกลางคืน คือ เวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน หรือ เวลาประมาณ 18.00 น
- พระพุทธรูป : พระพุทธรูป ปางปาลิไลยก์ หรือที่มักเรียกว่า "ปางป่าเลย์ไลก์"
- อุปนิสัย : มีเล่ห์เหลี่ยม อุบายมาก กล้าได้กล้าเสีย ดุร้าย คล่องตัวสูง ใจนักเลง มัวเมาลุ่มหลงในอบายมุขได้ง่าย ชอบสังคม ชอบการยกย่อง รักพวกพ้อง ไม่สนใจเรื่องระเบียบ-คุณธรรม
- ความหมายทั่วไป : ความลุ่มหลงมัวเมา อบายมุข การโจรกรรม หลอกลวง เล่ห์เหลี่ยม มั่วสุม การเสี่ยง เคมีภัณฑ์ ขยะ แก๊ส เปลี่ยนแปลง โรคภัย มอด (ทายมัวเมาให้ทายราหู) คอมพิวเตอร์ นักบริหาร การตลาด ฯลฯ
- สถานที่ : บ่อนการพนัน สถานบันเทิงที่ไม่ค่อยเปิดเผย โรงฝิ่น โรงงานผลิตสารเคมี –แก๊ส
- ทิศ : ตะวันตกเฉียงเหนือ
- สี : สีเทา สีควันบุหรี่ น้ำตาล น้ำตาลไหม้ ดอกพิกุล
- กำลัง : กำลัง 12 หมายเลขสัญลักษณ์ที่ใช้ทางโหราศาสตร์คือ ๘ ซึ่งเป็นลำดับของท่าน
- คู่ดาว : คู่มิตร คือ ดาวเสาร์ , คู่ธาตุ คือ ดาวอังคาร , คู่สมพล คือ ดาวจันทร์ คู่ศัตรู คือ ดาว พุธ
- ตำแหน่ง : ดาวเจ้าเรือน ลาภะของดวงโลก , ธาตุลม
ราหู หรือ พระราหู คือ เทพเจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลง และภัยพิบัติ เพราะฉะนั้นเมื่อดาวราหู จรเข้าทับลัคนา,ลัคน์วัย,อายุจรของใครก็ตาม รับรองได้ว่าชีวิตของเขาจะต้องพบกับ การเปลี่ยนแปลง รวมถึงความวุ่นวายอุปสรรค ,การเจ็บป่วย,อุบัติเหตุ, หนี้สิน,ปัญหาด้านงานเอกสาร ข้อตกลงข้อสัญญา ระเบียบข้อบังคับ คดีความ, โยกย้าย อย่างใดอย่างหนึ่งอย่างแน่นอน
ถ้าถามว่าจะมีทางออกอย่างไร ก็คงต้องตอบว่า ทำใจครับ เรื่องอย่างนี้อย่าไปวิตกกังวล มากนัก พอราหูเข้ามากระทบกับชีวิตใครแล้ว ส่วนใหญ่เจ้าชะตาก็มักจะมีอารมณ์วู่วาม เห็นผิดเป็นชอบ มัวเมาลุ่มหลง อะไรได้ง่ายๆ ถูกหลอกก็ง่ายด้วย ทางออกที่ดีก็ต้องใช้ชีวิตด้วยความ มีสติ รอบคอบ ไม่ประมาท ตามหลักธรรมคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้า ก็จะช่วยได้มากครับ
ส่วนดีของ ราหู ก็คือ ความฉลาดหลักแหลม (ออกจะแกมโกงนิดๆ) มีเล่ห์เหลี่ยม เจ้าอุบาย กุศโลบาย มีความสามารถในการโน้มน้าวจิตใจคน ใจนักเลง มีเพื่อนฝูงมาก รักพวกพ้อง ชอบการสังสรรค์ มุ่งเน้นผลประโยชน์-ผลลัพธ์มากกว่าวิธีการ เป็นนักการตลาด นักบริหารชั้นยอด ฯลฯ และถ้าในขณะที่ราหูจรทับ กระทบถึง ลัคนา เรามีปัญหาอุปสรรคต่างๆอยู่ในขณะนั้น ราหูก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้นได้ (ถ้าราหูที่จรมาอยู่ในตำแหน่งให้คุณแก่ดวงชะตา)
สำหรับคนที่ชอบไหว้,บูชาพระราหู ผมมีข้อคิดสะกิดใจเล็กน้อย ตามทัศนะของผม มาเล่าสู่กันฟังครับ(ขอย้ำนะครับ สิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังเป็นเพียงการแสดงทัศนะส่วนตัวของผมคนเดียว )
- พระราหู ถือว่าเป็นอสูร อยู่ในฝ่ายอธรรม ตามตำนาน การกราบไหว้อสูร พระราหู ผมจึงยังไม่สนิทใจนัก ผมจะกราบไหว้ บูชาพระพุทธรูป ปางปาลิไลยก์(ปางป่าเลย์ไลก์) มากกว่า (ผมเองก็เคยไปไหว้พระราหูมาหลายวัดครับ เช่น วัดศีรษะทอง วัดท่ากระบือ) แต่ถ้าใครคิดว่า พระท่านสมถะ ไม่ชอบให้โชคลาภเหมือนเทพ ก็ลองหันมาบูชาพระพฤหัสบดี เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ความสำเร็จ ดูก็น่าจะดีนะครับ
- พระราหู กำลังของท่านคือ 12 ฉะนั้นเวลาที่เราสวดบูชาพระราหู ก็จะสวด 12 จบ จุดธูป 12 ดอก จะถวายเครื่องเซ่นบวงสรวง ตามตำรับสะเคราะห์แบบโบราณ(ตามหลักคัมภีร์ เทวดาเสวยอายุ) ก็ต้อง 12 อย่าง ส่วนที่หลายๆ แห่งจัดบูชา 8 อย่างนั้น ก็คงเพราะ 12 อย่าง อาจจะมากเกินไป จัดหาได้ยาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมมาก จึงเอาเคล็ดตรง สัญลักษณ์เลข ๘ แทนราหู ตามหลักโหราศาสตร์ มาใช้แทน ซึ่งเรื่องนี้ผมคิดว่า อยู่ที่ความพร้อม และกำลังของเรามากกว่า อย่าไปกะเกณฑ์อะไรมากเลยครับ อยู่ที่ใจ 12 ก็ดี 8 ก็สะดวกครับ (แต่จำนวน 8 นั้น เป็นกำลังของดาวอังคาร ครับ)
- สีกายของพระราหู เป็นทองสำริด (ทองสัมฤทธิ์) ส่วนสีของพระราหู ตามหลักโหราศาสตร์ ที่ผมเรียนมา คือ สีน้ำตาล น้ำตาลไหม้ เทา ดอกพิกุล ควันบุหรี่ เป็นต้น ครับ ไม่ใช่สีดำอย่างที่หลายคนเข้าใจ (สีดำ เป็นสีของพระเสาร์ ครับ)
- คนที่ไหว้พระราหู ได้ดีน่าจะเป็น คนที่เกิดวันพุธกลางคืน วันเสาร์ วันอังคาร เพราะเป็นวันของตัวเอง เป็นคู่มิตร คู่ธาตุกัน ส่วนคนที่เกิดวันอื่นก็ลองพิจารณา ในเรื่องวันคู่ศัตรู และตำนานชาติเวร ตำนาน กวนน้ำอมฤต ดูละกันนะครับ ถ้าต้องการไหว้พระราหู ก็ควรไปไหว้ที่วัด หรือ ทำบุญอุทิศให้ พระราหู ก็จะดีกว่าครับ
โดยส่วนตัวผมไม่แนะนำให้ จัดเครื่องเซ่นบวงสรวง บูชาพระราหู ที่บ้าน ครับ
- พระราหู เป็นธาตุลม จึงเปลี่ยนแปลง ไม่คงที่ เมื่อเราบูชากราบไหว้ขอพร ผลที่ได้จึงมักจะไม่ยั่งยืน แต่จะได้ผลดี ในเรื่องที่เกี่ยวกับ การติดต่อการค้าขาย การใช้เล่ห์เหลี่ยม กุศโลบาย อบายมุข การเสี่ยงโชค เป็นครั้งๆ ไปครับ
ตามหลักโหราศาสตร์ พระราหู หรือดาวราหู ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเราทุกคน ในดวงชะตาของเราทุกคน ต้องมีดาวราหูอยู่ในดวงชะตาอยู่แล้ว และเราก็ต้องได้รับอิทธิพลจากดาวราหู ทั้งในด้านดี และร้าย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกปฏิบัติได้ กำหนด หนักเบา และเลือกใช้ในส่วนที่ดีของราหูได้ครับ
ขอบคุณเนื้อหาจากอ.ปราณเวท โหราพยากรณ์ เว็บไซต์ http://www.horapayakorn.com
บทความที่คุณอาจสนใจ
คู่มืออุ่นใจ ไปทำบุญอย่างไรให้ปลอด COVID-19
เสริมดวงออนไลน์ สไตล์สายบุญ 5G ปี 2564 ทำที่ไหน อย่างไรต้องดู
แม่นมาก!! ทายนิสัยจากปีเกิด 12 นักษัตร โดย อ.ปราณเวท โหราพยากรณ์
หากยังอ่านดวงไม่จุใจ ติดตามอ่านดวงแบบอื่นๆ ได้ที่นี่
|
| |||
|
|