เทศกาลถือศีลกินเจ ในปี 2563 นี้ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเทศกาลนี้ถือเป็นเทศกาลที่เราจะได้ชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ แถมเป็นการรักษาสุขภาพด้วยการเลือกทานแต่อาหารที่ดี มีประโยชน์ แถมยังได้บุญอีกด้วย ซึ่งวันนี้ทางเราก็มีข้อน่ารู้ 10 ที่คนกินเจควรรู้มาฝากกันค่ะ ทั้งข้อควรระวัง ข้อควรปฏิบัติในช่วงถือศีลกินเจจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่า
1. ล้างท้องก่อนกินเจ
การล้างท้องก่อนกินเจ ก็คือการกินเจก่อนวันจริง 1 วันค่ะ งดเว้นการกินเนื้อสัตว์ ผักที่มีกลิ่นฉุน และของต้องห้ามอื่น ๆ ในวันกินเจ ว่าง่าย ๆ ก็คือเราจะต้องกินเจกัน 10 วันติดกันนั่นเอง การล้างท้องก่อนกินเจจริงนั้นทำเพื่อชำระล้างร่างกายและสิ่งตกค้าง จากที่เราทานเนื้อสัตว์มาก่อน ทำให้ร่างกายเราสะอาด พร้อมถือศีลกินเจนั่นเองค่ะ
2. ทำความสะอาดเครื่องครัวให้สะอาดตลอดการกินเจ
ชาวจีนเขาจะทำความสะอาดห้องครัว ล้างเครื่องครัว ล้างตู้เย็น และกวาดหน้าบ้านให้สะอาดอยู่เสมอตลอดช่วงเวลาที่เราถือศีลกินเจ เพื่อรับโชคลาภและปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากบ้านไปค่ะ และต้องไม่ลืมนะว่าอาหารเจที่เราจะรับประทานนั้น ต้องปรุงด้วยคนถือศีลเจด้วยกันนะจ๊ะ
3. แต่งกายด้วยชุดขาว
จริง ๆ ข้อนี้ถือว่าเป็นไปตามความสะดวกของแต่ละบุคคลละกัน ซึ่งการแต่งกายด้วยชุดขาว เป็นการสื่อถึงความบริสุทธิ์ เป็นสีแห่งความสะอาดทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากนั้นการแต่งกายชุดขาวไปโรงเจ ยังช่วยให้ง่ายต่อการจัดการคนสำหรับศาลเจ้าหรือโรงเจในบางแห่งด้วย
4. ประพฤติดีทั้งกาย วาจา และใจ ตลอดการถือศีลกินเจ
ประเพณีถือศีลกินเจนั้นจะเน้นเรื่องการชำระล้างร่างกายให้สะอาด บริสุทธิ์ ซึ่งก็รวมไปถึงจิตใจที่บริสุทธิ์ด้วยนะ นอกจากจะงดเว้นการกินเนื้อสัตว์แล้ว ก็ต้องรักษาศีล 5 (หรือศีล 8) ไม่พูดจาหยาบคาย ไม่คิดชั่วทั้งทางกาย วาจา ใจ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา อยู่ในศีลธรรมอันดีตลอดการกินเจทั้ง 9 วันค่ะ เท่านี้เราก็จะบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ได้บุญหลังกินเจไปแบบเต็ม ๆ ค่ะ
5. ห้ามทานเนื้อสัตว์ รวมถึงนม ไข่ น้ำผึ้ง ขนมปัง
อย่างที่รู้ ๆ กันว่าช่วงเทศกาลกินเจเราต้องไม่กินเนื้อสัตว์ ซึ่งถือเป็นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นั้นรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากสัตว์ด้วยค่ะ เช่น นม เราก็ต้องรีดมาจากแม่วัว ไข่ ก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต ต้องไปเอามาจากแม่ไก่อีก ส่วนน้ำผึ้งก็ต้องไปเอาจากรังผึ้ง ซึ่งอาจจะมีการเผารัง ทำให้ตัวอ่อนตายในขณะเก็บน้ำผึ้ง และขนมปังเองก็มีส่วนผสมของชีส เนย นม ไข่ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ อย่าลืมสังเกตุ และงดเว้นวัตถุดิบที่ได้จากเนื้อสัตว์ด้วยนะคะ เช็กให้ดีก่อนกินว่ามีสัญลักษณ์เจหรือไม่ จะได้ไม่เผลอเจแตกเนอะ
6. งดทานผักที่มีกลิ่นฉุน
อีกหนึ่งวัตถุดิบต้องห้ามของเทศกาลกินเจก็คือ ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม กระเทียมโทน กุยช่าย และใบยาสูบ รวมไปถึงผักชี ที่แถมมาเพราะเป็นผักที่มีกลิ่นฉุนเช่นกัน การที่งดเว้นเป็นเพราะเรื่องของสุขภาพที่แพทย์จีนแนะนำมาเลย เนื่องจากคุณสมบัติของผักเหล่านี้จะช่วยย่อยเนื้อสัตว์ ทำให้ระบบย่อยอาหารของเราไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป แต่เมื่อเทศกาลกินเจเราไม่ได้ทานเนื้อสัตว์อยู่แล้ว ก็อาจทำให้ระคายเคืองระบบย่อยอาหารได้นั่นเอง นอกจากนั้นผักเหล่านี้มีกลิ่นที่แรง จะไปกระตุ้นอารมณ์ของผู้ทานทำให้รู้สึกหงุดหงิดง่าย หรือกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอีกด้วย ซึ่งไม่เหมาะในช่วงถือศีลค่ะ
7. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเทศกาลกินเจ
ในช่วงเทศกาลกินเจเราจะต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ อยู่ในศีลธรรมที่ดี ละเว้นซึ่งกิจกรรมกามและกิเลสต่าง ๆ เพื่อเป็นการฝึกกล่อมเกลาจิตใจให้มีความอดทนต่อกิเลสตัณหา
8. ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อีกหนึ่งข้อปฏิบัติที่สำคัญมาก ๆ ของช่วงเทศกาลกินเจ คือ งดเว้นการดื่มสุรา ของมึนเมา สูบบุหรี่ และห้ามสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย
9. ต้องไม่อยู่ในระหว่างการไว้ทุกข์
ตามความเชื่อของคนจีนนั้น ช่วงไว้ทุกข์จะต้องประกอบพิธีไหว้ผู้ล่วงลับทุกวัน นั่นก็คือการเตรียมอาหารเช้า เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ ซึ่งก็อาจมีความยุ่งยาก และไม่สะดวกสำหรับคนที่จะถือศีลกินเจนั่นเอง และระหว่างการไว้ทุกข์จะเกิดอารมณ์เศร้าหมอง ไม่มีใจที่จะปฏิบัติธรรมอีกด้วย
10. สตรีมีครรภ์และอยู่ในช่วงรอบเดือนไม่ควรกินเจ
ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่ควรร่วมพิธีถือศีลกินเจ เพราะในช่วงระหว่างที่ตั้งครรภ์ควรได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ซึ่งการงดเว้นไม่กินเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากสัตว์นั้นอาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ส่งผลต่อสุขภาพทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยได้ และการประกอบพิธีในโรงเจก็ต้องลุก นั่ง เดิน ค่อนข้างเยอะ คุณแม่ตั้งครรภ์อาจจะไม่สะดวกนัก นอกจากนั้นคนจีนโบราณยังห้ามผู้หญิงที่มีประจำเดือนร่วมพิธี เพราะเชื่อว่าการขับเลือดประจำเดือน = ร่างกายไม่สะอาดนั่นเอง
และนี่ก็คือ 10 ข้อน่ารู้ของเทศกาลกินเจ ที่เราควรรู้ เพื่อที่เราจะได้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมของเทศกาลกินเจทั้ง 9 วันนั่นเองค่ะ ขอให้เพื่อน ๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรงและอิ่มบุญกันตลอดช่วงกินเจนะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ บ๊ายบาย ^ ^
