6 สถานที่เที่ยวรับพลัง เสริมดวงปังส่งท้ายปี 2565
ช่วงส่งท้ายปีแบบนี้ ใครหลายคนก็คงเตรียมตัววางแพลนลาหยุดเพื่อไปเที่ยวรับพลังบวก และขจัดความอ่อนล้าที่ทำงานมาตลอดทั้งปี ใครที่มีวันหยุดแล้วแต่ยังไม่รู้จะไปไหน เชิญทางนี้เลย! วันนี้เราจะมาแนะนำ 6 ที่เที่ยวรับพลัง เสริมดวงปังส่งท้ายปีกันค่ะ!
1. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์
มาเริ่มที่แรกด้วยวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพมากเท่าไร เป็นสถานที่ที่งดงาม รายล้อมด้วยทิวเขาสูงใหญ่ซ้อนกัน ที่นี่เป็นฮวงจุ้ยมังกร (มังกรคาบแก้ว) ให้พลังที่ดีมากเหมาะแก่การรับพลังให้ชีวิต และความโดดเด่นที่ไม่เหมือนที่ไหน คือ การนำวัสดุต่างๆ อย่างเครื่องเบญจรงค์ เครื่องประดับ ลูกปัด ลูกแก้ว กระเบื้องสีต่างๆ มาตกแต่งพระธาตุ ทำให้มีความสวยงามน่ามอง และแฝงไปด้วยปริศนาธรรม รวมทั้งองค์พระพุทธรูปสีขาว ประดิษฐานเรียงกัน 5 องค์ ที่มองเห็นโดดเด่นมาแต่ไกล สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาและหาทางออกไม่เจอ แนะนำให้ลองอธิษฐานกับพระเจ้า 5 พระองค์ แล้วหลับตาทำสมาธิ ขอให้มีปัญญาพบทางแก้ปัญหาในชีวิตกันดู นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวสวยเขาค้ออีกด้วย ถ้าได้ไปในช่วงเช้าตรู่ก็จะได้สัมผัสกับหมอกเย็นๆ และสูดอากาศได้อย่างเต็มปอด บอกเลยค่ะว่าที่นี่นอกจากจะได้บุญแล้วยังสดชื่นไปกับบรรยากาศอีกด้วย
2. บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
บ้านรักไทย ตั้งอยู่ในอ.แม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวที่ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่เมืองไทย ซึ่งที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่ในสมัยอดีตเคยเป็นทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) หรือที่เรารู้จักกันว่า ก๊กมินตั๊ง ที่มีอากาศหนาวเกือบทั้งปี โดยเฉพาะช่วงปลายปีหน้าหนาวแบบนี้ จะหนาวมากเป็นพิเศษ ที่นี่มีจุดเด่นคือ ชาและขาหมูหมั่นโถว ที่ชิมเข้าไปแล้วจะร้องว้าว! เพราะมีความเป็นเอกลักษณ์บวกกับบรรยากาศที่ดีมาก นอกจากของอร่อยแล้วก็จะมีกิจกรรมให้ทำอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การเดินป่า ปั่นจักรยาน การขี่ม้าพาข้ามแดน และการนั่งเรือในทะเลสาบชมวิวสวยงามของหมู่บ้าน ฝั่งประเทศเมียนมาร์ ที่นอกจากจะสวยงามแล้วยังเป็นแหล่งรับพลังฮวงจุ้ยที่ดีอีกด้วย เพราะรายล้อมด้วยน้ำ ป่า เขา บอกเลยว่าได้พลังบวกแบบสุดๆ
3. พญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม
พญาศรีสัตตนาคราช ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม เป็นรูปปั้นพญานาค 7 เศียรสีทองหล่อด้วยทองเหลืองที่มีความสูงราว 16 เมตร ซึ่งมีความมโดดเด่นสง่างาม และนับเป็นรูปปั้นพญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม ชาวนครพนมและนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ก็มักจะมาสักการะขอพรและสมหวังกันไปตามๆกัน โดยจะเน้นขอเรื่องโชคลาภ การเสี่ยงดวงเป็นหลัก นอกจากจะได้มากราบไหว้ขอพรแล้วบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีร้านกาแฟสวยเก๋ ให้ได้ถ่ายรูปจิบกาแฟริมโขงอีกหลายร้านเลยทีเดียว
4. ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดกับชายแดนไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ในพื้นที่เขตอ.เทิง จ.เชียงราย ที่มีเอกลักษณ์คือหน้าผาเป็นปลายยอดแหลมแนวยาว ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งลาว และในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็จะได้ชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก โดยในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาด้านล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญ้าและแซมด้วยทุ่งดอกโคลงเคลง รับรองว่าที่นี่จะช่วยชาร์จแบตให้กลับมาทำงานกันต่อได้อย่างแน่นอน
5. หาดเตยงาม จ.ชลบุรี
หาดเตยงามตั้งอยู่ที่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่นี่มี “สะดือมังกร” ตำนานและความเชื่อของชาวชลบุรีที่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า ทะเลที่ใดที่มีสะดือมังกร ที่นั่นเป็นเหมือนแหล่งรวมพลังบวก เมื่อได้อาบหรือแช่ตัวแล้วจะมีพลังพิเศษ ช่วยเสริมพลัง บารมี และเป็นสิริมงคล ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน และนอกจากจะได้รับพลังบวกแล้วยังได้กินอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ เพราอยู่ในแหล่งอาหารทะเลนั่นเอง
6. เกาะรูปหัวใจ จ.สุโขทัย
เกาะรูปหัวใจ หนึ่งในแลนด์มาร์คของจ.สุโขทัย เป็นเกาะกลางโครงการแก้มลิงในพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นสถานที่ประดิษฐสถานพระพุทธรัตนสิริสุโขทัย ที่เชื่อว่าถ้าพาคนรักไปอธิษฐานขอพร จะช่วยให้สมหวังในความรัก และหากโชคดีจะสามารถมองเห็นยอดเขาหลวง สุโขทัย ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสุโขทัย มีความสูง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งพลังกายและพลังใจ
