รีเซต

5 ความเชื่อผิดๆ ในการจัดห้องพระ โดย ซินแสปิง แห่งดวงlive

  • 04 พฤษภาคม 2563
  • 7,070 2

      ฮวงจุ้ยห้องพระ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของบ้านที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะหากวางได้ถูกจุดแล้ว ก็จะช่วยเสริมสิริมงคลของบ้านและทุกคนในบ้านได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้นจึงควรใส่ใจในรายละเอียดไม่น้อยกว่าส่วนอื่นๆ ของบ้านค่ะ และซินแสปิงจะมาเผยความจริงเกี่ยวกับ 5 ความเชื่อผิดๆ ในการจัดห้องพระให้ได้ทราบกัน จะได้ไม่เผลอจัดฮวงจุ้ยผิดชีวิตเปลี่ยนนะคะ



5 ความเชื่อผิดๆ ในการจัดห้องพระ

1. ห้องพระควรเป็นห้องชั้นบนสุดของบ้าน ต่อให้มีบ้านกี่ชั้นก็ควรวางไว้ชั้นสูงสุด เพราะ “พระ คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นของสูงที่เราสักการะบูชา” การวางพระต่ำกว่าคนในบ้าน หากมีการเดินข้าม นอนคร่อม หรือหันปลายเท้าเข้าหาพระ ย่อมไม่เป็นมงคล โดยเฉพาะเมื่อชั้นบนเหนือห้องพระเป็นห้องน้ำ และห้องนอน

     แต่ถ้าบ้านเรามีผู้สูงอายุ หรือคนป่วยที่ไม่สามารถขึ้นบันไดได้ คนเหล่านั้นจะได้ใช้ห้องพระหรือเปล่า ????

     ถ้าเราอยู่คอนโดที่มีชั้นสูงๆ แต่เราอยู่ชั้นล่าง นั่นก็หมายความว่า เราไม่ควรมีพระอยู่ในห้องใช่ไหม ????
เพราะพระของเราจะถูกคนอื่นเหยียบย่ำตลอดเวลาใช่หรือไม่ ????

     ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ห้องแต่ละห้องล้วนมีกำแพงทึบ หรือแม้แต่พื้นห้องที่เป็นปูนหนาเป็นตัวกั้น และแบ่งแยกกันโดยชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องจินตนาการให้ซับซ้อน เพราะฉะนั้น หลักการที่ถูกต้อง คือ ห้องพระจะอยู่ชั้นไหนก็ได้ จะอยู่ส่วนไหนของบ้านก็บ้านได้ ถ้าสมาชิกทุกคนในบ้านสามารถใช้ห้องพระในการสวดมนต์ นั่งสมาธิได้

 

2. ห้องพระติดห้องนอนต้องระวังเรื่องการวางเตียง ห้ามหันปลายเตียง เพราะถือว่า เป็นการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือหันหัวเตียงติดผนังห้องพระ เพราะเมื่อนอนบนเตียงอาจได้รับอิทธิพลของธาตุไฟ ทำให้ปวดหัวง่าย หรือนอนไม่ค่อยหลับ

     แล้วถ้าไม่มีห้องอื่นแล้วเราจะไปนอนห้องไหน ???? เราควรเลือกที่จะมีห้องนอน หรือห้องพระ ????
แล้วถ้ามุมวางเตียงเป็นมุมบังคับไม่มีตำแหน่งที่จะตั้งได้ เราควรจะทำอย่างไร ????แล้วถ้าเราอยู่คอนโด แล้วห้องติดกันหันปลายเท้า หรือหันหัวเตียงมาทางห้องพระของเรานั่นหมายความว่า คนนั้นลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเรา หรือเค้าจะต้องปวดหัว หรือนอนไม่หลับใช่ไหม ????

     ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ห้องแต่ละห้องล้วนมีกำแพงทึบเป็นตัวกั้น และแบ่งแยกกันโดยชัดเจนอยู่แล้ว และแต่ละห้องก็มีหน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องจินตนาการให้ซับซ้อน ยกเว้นถ้าผนังห้องเป็นกระจก และเรามองเห็นด้วยตาเปล่าว่า อีกห้องหนึ่งเป็นห้องพระ เราถึงจะไม่ควรหันปลายเท้าไปทางห้องพระ

 

3. หิ้งพระ หรือองค์พระ จะต้องหันไปทางทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศเหนือเท่านั้น ส่วนทิศอื่นหันแล้วไม่เป็นมงคล จะทำให้ชีวิตตกต่ำ

     จากความเชื่อนี้สันนิษฐานได้ว่า ชื่อของทิศที่มีคำว่า “ใต้” กับ “ตก” ปนอยู่ในคำว่าทิศ จะฟังดูแล้วไม่เป็นมงคล จึงไม่หันหน้าพระไปยังทิศนี้

     หากเราพิจารณาแค่ความหมายของคำว่า “ตก” เราจะต้องรู้ด้วยว่า คำว่า “ไหล” หรือ “เท” ก็มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า “ตก” เพราะคำเหล่านี้คือ อาการของการเคลื่อนที่จากที่สูงลงที่ที่ต่ำกว่า แต่ทำไมชอบพูดว่า ขอให้เงินทองไหลมาเทมา
ส่วนคำว่า “ออก” ก็แปลว่า เคลื่อนไปข้างนอก เป็นคำที่ดี แสดงว่า เรายินดีให้เงินออกไปจากบ้านใช่ไหมครับ ????
ในขณะที่บางครั้ง เราใช้คำว่า”ออก” และ “ตก” ในความหมายเดียวกัน คือ “คิดออก” หรือ “คิดตก” ซึ่งแปลว่า “คิดได้แล้ว หรือคิดสำเร็จแล้ว”

     เพราะฉะนั้น การหันหิ้ง หรือองค์พระ จะหันไปทางทิศไหนก็ได้ที่เหมาะสมกับลักษณะบ้านของเราเอง แต่สิ่งที่ควรระวัง คือ เวลาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ห้ามนั่งตรงประตู หรือหน้าต่าง ควรนั่งหันหลังให้กับผนังทึบ เพื่อให้เรามีสมาธิในการสวดมนต์ และนั่งสมาธิ และด้านหลังหิ้ง หรือองค์พระก็ควรเป็นผนังทึบเช่นกัน

 

4. ถ้าพักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ หรือคอนโด ควรตั้งหิ้งพระให้สูงกว่าระดับศีรษะ เพราะหากตั้งหิ้งพระต่ำกว่าศีรษะ จะทำให้คนในบ้านไม่เจริญก้าวหน้า อาชีพการงานเติบโตช้า และจะถูกลดตำแหน่งงานลง

      แต่ถ้าวางสูงแล้ว ยากต่อการดูแลทำความสะอาด ถูกปล่อยปละละเลยให้สกปรก หรือวาง และลาของไหว้ ลำบาก จนปล่อยให้น้ำแห้ง ของไหว้เน่าเสีย คุณคิดว่า การกระทำเช่นนี้จะยังทำให้คนในบ้านเจริญก้าวหน้าหรือเปล่า ????

      สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ คอนโด หรือแม้แต่บ้านที่เป็นบ้านชั้นเดียว ควรมีชั้นวางพระ เช่น โต๊ะหมู่บูชาที่มั่นคง หรือที่วางที่มั่นคงไม่มีการเปิดปิด หรือโยกเหยก จะได้ไม่ต้องวางพระกับพื้น เพียงเท่านี้ก็เท่ากับเป็นการให้ความเคารพองค์พระแล้ว

 

5. หากตั้งหิ้งบูชาขนาดใหญ่ จำนวนองค์พระ หรือองค์เทพบนหิ้งควรมีจำนวนเป็นเลขคี่ เช่น 1, 3, 5, 7, 9 องค์

     ทั้งหลักฮวงจุ้ย และความเชื่อของไทยก็ล้วนระบุว่าไม่นิยมให้เป็นจำนวนเลขคู่ มันคือความคิดที่ย้อนแย้งกันเอง เราถูกฝังหัวว่าตัวเลขที่ดี คือ ตัวเลขคู่ เช่น 2 / 4 / 6 คือ ตัวเลขที่ดี เป็นเลขศุภเคราะห์ เลขมงคลที่คนต้องการ และยินดีจ่ายเงินแพงๆ เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของตัวเลขเหล่านั้น ในขณะที่ 1 / 3 และ 7 คือ ตัวเลขอัปมงคล เป็นเลขบาปเคราะห์ เป็นเลขที่ควรหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะเลข 3 และ 7 แล้วอะไร คือ จำนวนที่ดีกันแน่ ????


     ตัวเลขทุกตัว มีทั้งด้านดี และด้านเสีย อยู่ที่ว่า เราจะดึงเอาด้านดี หรือด้านเสียของตัวเลขเหล่านั้นมาใช้มากกว่า เพราะฉะนั้น จำนวนองค์พระที่ดี คือ จำนวนที่เรามี และสามารถดูแลรักษาได้นั่นเอง

 

แนะนำโดย ซินแสปิง แห่งดวงlive

---------------------------------------------------

ติดตามดวงรายวัน ดวงรายสัปดาห์ และ คอนเท้นต์ดวงต่างๆ

ได้ที่ เพจ Facebook ดวงlive

ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ดวงlive ได้ที่

android   ios

 

หากยังอ่านดวงไม่จุใจ ติดตามอ่านดวงแบบอื่นๆ ได้ที่นี่

ดวงรายวัน

 

ดวงรายสัปดาห์

 

ดวงรายปักษ์

ดวงรายเดือน

 

เลขมงคล

 

ฤกษ์มงคล