หนึ่งในบทที่สวดแล้วเปลี่ยนชีวิต คงต้องมี คาถาหลวงปู่ทวด รวมอยู่ด้วย เพราะเชื่อกันว่ามีพุทธคุณช่วยให้แคล้วคลาด ปลอดภัย เจริญรุ่งเรืองทั้งการงาน การเงิน และช่วยปัดเป่าอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต จนเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่ผู้นิยมพระเครื่องและหน่วยกู้ภัยว่า "ผู้ที่แขวนบูชาหลวงปู่ทวดจะไม่ตายโหง" กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล
หากผู้สวดประพฤติตัวอยู่ในศีลในธรรม และสวดด้วยจิตที่เคารพศรัทธา ก็ย่อมจะเห็นผลเปลี่ยนแปลงในชีวิตไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน เซฟหรือ Bookmark หน้านี้ไว้กันได้เลย เพราะเราได้รวบรวมบทสวดมนต์ คาถาหลวงปู่ทวด ทั้งคำอ่าน คำแปล และเสียงสวดคาถาหลวงปู่ทวดมาให้แล้ว สวดทุกวันแล้วคุณจะเห็นผลด้วยตนเอง!
kajornyot wildlife photography / Shutterstock.com
คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
การสวดภาวนาประจำวัน หรือสวดก่อนออกจากบ้าน ก่อนเดินทางไกล ให้สวดดังนี้
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
คำแปลคาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
“ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชค ซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้”
การบูชาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
ให้บูชาหลวงปู่ทวดด้วย
1.ธูปแขก (ธูปสีดำ) 9 ดอก
2.มะลิขาว 9 ดอก
แล้วสวดพระคาถาพร้อมแผ่เมตตาดังนี้
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
เประมัง ธัมมัง สังฆัง
ปุระมัง ธัมมัง สังฆัง
ปรมัง ธัมมัง สังฆัง
เสสัง ธัมมัง สังฆัง
กริยานัง อัตโน โหตุ (3-11 จบ)
สัตว์ทั้งหลาย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด
ประวัติของหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด หรือสมเด็จพะโคะ
หลวงปู่ทวด หรือ สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ เป็นพระเกจิผู้ทรงอภิญญษที่ชาวไทยรู้จักกันมานานจากรุ่นสู่รุ่น โดยรู้จักท่านในนามอื่นๆ ด้วยอีกมากมาย เช่น
- สมเด็จเจ้าพะโคะ
- หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
- หลวงปู่ทวดวัดช้างให้
- ท่านองค์ดำ
- ท่านลังกา
ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีชีวิตอยู่จริงในสมัยอยุธยา ประวัติเกี่ยวกับท่านอาจแตกต่างกันไปตามการเล่าขานของแต่ละท้องถิ่น และอาจมีการผิดเพี้ยนไปบ้างเมื่อผ่านกาลเวลาแต่ละยุคสมัย แต่ส่วนใหญ่แล้วคล้ายคลึงกัน ดังต่อไปนี้
กำเนิดหลวงปู่ทวด
หลวงปู่ทวดนามเดิมว่า ปู ท่านเกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช (บางแหล่งข้อมูลก็ระบุว่าเป็นรัชสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ) เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ชาวบ้านวัดเลียบ ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ทั้งสองเป็นทาสในเรือนเบี้ยของเศรษฐีปาน
เมื่อเด็กชายปูกำลังจะคลอดจากครรภ์มารดา ก็บังเกิดเหตุอัศจรรย์คือ เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่ากึกก้องจนแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น ราวกับเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่านี่คือผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อคลอดแล้ว บิดาของท่านก็ตัดสายสะดือแล้วนำไปฝังไว้ที่โคนต้นเลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน
เรื่องอัศจรรย์ยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว มารดาของท่านได้ผูกเปลให้เด็กชายปูในวัยแบเบาะนอนอยู่ใต้ต้นมะเม่าแล้วออกไปเกี่ยวข้าวในทุ่งนาในบริเวณใกล้ๆ กัน เมื่อถึงเวลาให้นมก็เดินกลับมาที่เปลแล้วก็ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นงูบองหลา (งูจงอางตัวใหญ่) พันอยู่รอบเปล จึงได้ร้องตะโกนเรียกสามีคือนายหูให้รีบมาช่วย แต่ไม่ว่าจะพยายามไล่งูอย่างไรก็ไม่เป็นผล งูยังคงขดตัวนิ่งอยู่แบบนั้น
จนกระทั่งนายหูฉุกใจคิดว่านี่คงไม่ใช่งูธรรมดา จึงอธิษฐานขอให้งูไม่ทำร้ายลูกของตน งูจึงคลายวงรัดออกและเลื้อยหายเข้าไปในป่า นายหูและนางจันทร์จึงรีบเข้าไปดูลูกน้อย ก็พบว่าเด็กชายปูยังหลับสบายปลอดภัยดี แต่มีเมือกแก้วที่งูคายไว้อยู่บนตัว ซึ่งต่อมาเมือกแก้วนั้นก็แข็งตัวกลายเป็นแก้วแวววาวอย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องก็เกิดความอยากได้แก้วนั้น จึงบีบบังคับเอามาเป็นของตน แม้จะไม่เต็มใจแต่นายหูและนางจันทร์ก็ต้องยกให้เพราะตนเองเป็นทาสในเรือนเบี้ย แต่เมื่อได้มาแล้วกลับเกิดอาเพศในครอบครัวของเศรษฐีปานไม่หยุดหย่อน ทั้งคนในเรือนเจ็บป่วย มีเหตุเภทภัย อีกทั้งฐานะก็ยากจนลงเรื่อยๆ ราวกับว่าแก้วนี้เป็นของคู่บารมีเด็กชายปู ไม่ใช่ของเศรษฐีปาน สุดท้ายแล้วเศรษฐีปานจึงตัดใจยกลูกแก้วคืนให้ พร้อมกับยกหนี้ให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาส และต่อมาก็เจริญรุ่งเรืองมีฐานะดีขึ้น ส่วนเศรษฐีปานก็กลับมามีมีฐานะดีขึ้นดังเดิม
เมื่อท่านมีอายุครบ 7 ขวบ บิดามารดาก็นำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือที่วัดกุฎีหลวง (หรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน) ซึ่งมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กฉลาดมีไหวพริบดีเยี่ยม สามารถเรียนภาษาไทยและภาษาขอมได้รวดเร็ว จนกระทั่งอายุครบ 15 ปีสมภารจวงก็บวชให้ท่านเป็นสามเณร และโยมบิดาของท่านก็ได้ถวายแก้วคืนให้เพื่อเป็นของคู่บารมีประจำกายของสามเณรต่อไป
kajornyot wildlife photography / Shutterstock.com
ต่อมาท่านสมภารจวงเห็นว่าสามเณรมีความใฝ่เรียน สามารถเรียนรู้สรรพวิชาได้ครบถ้วนแล้ว ก็ได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้น ซึ่งสมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ (ปัจบันก็คือเรียนนักธรรม) โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยัง (วัดสีหยังในปัจจุบัน) และท่านก็สามารถเรียนรู้วิชาจนจบหลักสูตรอย่างรวดเร็วอีกเช่นเคย
จากนั้นท่านจึงได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชที่วัดเสมาเมือง ซึ่งมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบบวช หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาหาความรู้อีกมากมายจากครูบาอาจารย์ต่างๆ จนได้ชื่อว่าเป็นพระผู้ทรงอภิญญา เป็นที่เคารพนับถือในวงกว้าง และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ตามลำดับ จนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายในราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์
เมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี หลวงปู่ทวดก็ได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน และท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพแล้วให้นำพระศพท่านไปไว้ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งก็เป็นจริงดังคำท่านมาจนทุกวันนี้
ploypemuk / Shutterstock.com
ที่มาของชื่อ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด คืออะไร
มีเรื่องเล่าลือกันมายาวนานกว่า 400 ปีว่า ครั้งหนึ่งหลวงปู่ทวดได้ขออาศัยเรือสำเภาลำหนึ่งเดินทางไปอยุธยา แต่เกิดพายุขึ้นระหว่างทางและรุนแรงมากจนเรือต้องจอดพักที่เกาะแห่งหนึ่ง จนกระทั่งน้ำดื่มหมดก็ยังไม่สามารถเดินทางต่อได้ ลูกเรือพากันคิดไปว่า แต่เดิมไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน เห็นทีจะเป็นเพราะรับหลวงปู่ขึ้นมาแน่ๆ จึงวางแผนจะปล่อยท่านทิ้งไว้ที่เกาะ ในทันใดนั้นเองท่านก็ได้จุ่มเท้าซ้ายลงไปในน้ำทะเล และน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งว่าน้ำบริเวณนั้นกลับกลายเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มได้ เจ้าของเรือและลูกเรือจึงต้องพากันขอขมาท่าน และนิมนต์ท่านขึ้นเรือเดินทางต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อด้วยว่า "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" แห่งวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่นักเสี่ยงโชคต่างรู้จักกันดี ก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวดด้วยเช่นกัน อ่านเพิ่มเติมที่ วิธีบูชา ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ เปิดตำนาน พร้อมคาถาบูชา วิธีบนบาน แก้บน และวิธีตั้งหิ้งบูชา
จวบจนทุกวันนี้ แม้กาลเวลาจะผ่านมานานหลายร้อยปี แต่ผู้คนก็ยังคงศรัทธาในหลวงปู่ทวดและดูจะศรัทธาเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเชื่อว่าหากคุณได้บูชาท่านและสวดคาถาหลวงปู่ทวดเป็นประจำ ก็ย่อมจะได้ประจักษ์กับเหตุผลของความศรัทธานั้นด้วยตนเองอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
รวมบทสวดมนต์ คาถาเรียกเงิน เรียกทรัพย์ มีโชคลาภ นับเงินรัวๆ! (มีคลิป)
บทสวดมนต์ก่อนนอน พร้อมบทแผ่เมตตา สวดทุกคืน ชีวิตดีขึ้นแน่นอน!
คาถาชินบัญชร แบบเต็ม และแบบย่อ หลวงพ่อโต พรหมรังสี บทสวดมนต์ก่อนนอนยอดนิยม
รวมบทสวดมนต์ คาถาชินบัญชร บทสวดอิติปิโส บทแผ่เมตตา และบทสวดมนต์ต่างๆ
บทสวดมนต์ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร พร้อมเสียงสวดและคำแปล
วัดห้วยมงคล วัดดัง ที่เที่ยวหัวหิน ขอโชคลาภไอ้ไข่ กราบไหว้หลวงปู่ทวด
รวมบทสวดมนต์ บทแผ่เมตตา และคาถาเสริมดวง ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
|
| |||
|
|